วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

พัฒนาการของลูกน้อย เดือนที่ 6

เดือนที่ 6
เจ้าตัวน้อยเติบโตมาจนครึ่งขวบแล้วนะคะ ซึ่งเดือนนี้ลูกกำลังเปลี่ยนผ่านจากเด็กที่นอนเล่นเป็นหลักมาเป็นนั่งเล่นเป็นหลักกันบ้างแล้ว รวมทั้งสนใจโลกรอบตัวและช่างเจรจามากขึ้นอีกด้วย.. ...มาดูพัฒนาการ 360°อัจฉริยะรอบด้านของลูกน้อยเดือนนี้กันค่ะ

ฉลาดเรียนรู้
ลูกเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างมือและของที่อยู่ในมือผ่านการทำซ้ำๆ เช่น เด็กบางคนชอบที่จะคว้าของ โยน หรือปล่อยของลงพื้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อสังเกตดูปฏิกิริยาของสิ่งของที่ตกลงบนพื้น รวมไปถึงท่าทีของคนอื่นๆ ต่อการกระทำของเขา และจะส่งเสียงให้รู้ว่าช่วยเก็บของมาคืนหนูหน่อย

ระบบประสาทต่างๆ ทำงานสัมพันธ์กันมากขึ้น ลูกคว้าสิ่งของด้วยความแม่นยำมากขึ้น มองตามวัตถุได้ทั้งซ้ายและขวา อย่างไรก็ตาม เด็กๆ ควรได้รับการพัฒนาระบบการรับรู้อย่างรอบด้าน ทั้งการมอง การได้ยิน การสัมผัสและการรับรส เพราะเด็กที่มีโอกาสมองเห็น ได้ยินและเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กัน จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะการคิดได้หลากหลายและสมองทำงานเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบมากขึ้นด้วยค่ะ

ลูกเรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกิจวัตรประจำวัน รู้ว่าตื่นนอนแล้ว แม่จะพาไปอาบน้ำ กินนม เล่น เป็นต้น รวมทั้งเข้าใจหน้าที่ของของเล่นและของใช้ต่างๆ ได้ดี โดยเชื่อมโยงกับกิจกรรมประจำวัน เช่น ช้อนเอาไว้ตักอาหารเข้าปาก

ฉลาดเคลื่อนไหว
ลูกสามารถหันหน้าเอี้ยวตัวไปมาได้อย่างคล่องแคล่ว เช่นเดียวกับการพลิกคว่ำที่บางครั้งอาจพลิกคว่ำมาเป็นท่าทางกึ่งนั่งได้

เดือนนี้คุณแม่อาจได้เห็นเจ้าตัวน้อยพยายามเคลื่อนตัวไปข้างหน้าในลักษณะคืบไปข้างหรือถอยหลังได้บ้างแล้ว

ลูกนั่งได้มั่นคงขึ้น แต่คุณแม่ก็ต้องไม่ประมาทหาหมอนหาเบาะนุ่มๆ วางไว้รอบๆ ตัวลูกกันพลาด เพราะบางครั้งอาจมีเสียศูนย์หน้าคว่ำหรือหงายหลังได้เหมือนกัน

ลูกวัยนี้สามารถถือขวดนม จับแก้วน้ำแบบมีหูเองได้แล้วค่ะ จับของเล่นและถ่ายของจากมือหนึ่งไปอีกมือหนึ่งได้อย่างคล่องแคล่วเช่นกัน

ฉลาดสื่อสาร
ลูกเริ่มส่งเสียงเลียนพยัญชนะได้มากขึ้น คุมการออกเสียงได้มากขึ้นแต่ว่ายังไม่ค่อยเป็นภาษาเท่าไร และมักใช้วิธีการส่งเสียงเพื่อบอกอารมณ์ต่างๆ ของตัวเอง

รู้จักชื่อตัวเองและพร้อมที่จะหันหาเมื่อมีคนเรียก

ฉลาดด้านอารมณ์
เดือนนี้เด็กๆ หลายคนเริ่มมีอาการคันเหงือกหรือไม่ค่อยสบายจากการที่ฟันใกล้จะขึ้น ส่งผลให้ลูกอาจงอแงโยเยได้เหมือนกัน ทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาเจ็บปวดและความรู้สึกอารมณ์หงุดหงิดของลูกได้ คือให้คุณแม่ลองหายางกัดลวดลายน่ารักๆ ขนมปังกรอบ หรือผักผลไม้เนื้อแข็ง เช่น แตงกวา แอปเปิ้ลมาให้ลูกถือกัดเล่นแก้คันเหงือกได้ค่ะ

เด็กๆ จะอารมณ์ดีถ้าได้เล่น ยิ่งมีคนเล่นด้วยยิ่งชอบค่ะ โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่เห็นทีต้องจัดสรรเวลาสำหรับการเป็นเพื่อนเล่นของลูกด้วยแล้ว และเกมที่จะทำให้หนูน้อยวัยนี้อารมณ์ดีก็คือ เกมจ๊ะเอ๋ เพียงแค่เอามือหรือผ้าปิดหน้าเราแล้วเปิดออก รับรองเจ้าตัวเล็กหัวเราะชอบใจ

ชอบยิ้มให้กับเงาในกระจก

อย่างไรก็ตาม พัฒนาการของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกายและโอกาสที่เขาจะได้รับการกระตุ้นและส่งเสริมด้วยเช่นกัน เพื่อพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 6 ปี

เด็กวัย 6 ขวบ สั่งสมประสบการณ์การเรียนรู้ จากการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง จากการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่และคุณครู จากการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง จึงทำให้เขา “รู้ภาษา” มากขึ้น อีกทั้งสมองและร่างกายก็เติบโตพร้อมสู่การเรียนรู้ที่เข้มข้นขึ้นในระดับประถมศึกษาต่อไป...ไปดูกันว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ



ฉลาดเรียนรู้
ลูกวัยนี้ชอบการฝึกสมองลองปัญญา ชอบกิจกรรมใหม่ๆ ที่ท้าทายความสามารถ  เมื่อพบเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคจะลองผิดลองถูกกับการแก้ปัญหาด้วยวิธีต่างๆ ที่สอดคล้องกับวัยได้ดีขึ้น
สามารถจดจำท่าทางต่างๆ ที่ใช้ในการเต้นประกอบเพลง สำหรับการแสดงในโรงเรียนได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นท่าง่ายๆ ประมาณ 3-4 ท่า
เด็กหลายคนสามารถอ่านเขียนคำง่ายๆ ได้แล้ว
สามารถเข้าใจเรื่องขนาดและคำที่แสดงปริมาณ เช่น ครึ่งหนึ่งกับทั้งหมด ใหญ่เล็ก มากกว่า น้อยกว่า สูงสุด เตี้ยสุด รวมถึงความเหมือนและความต่าง


ฉลาดเคลื่อนไหว
ร่างกายเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วและระบบต่างๆ ทำงานประสานกันได้ดี คุณแม่สามารถส่งเสริมการเคลื่อนไหวให้ลูกได้หลากหลายวิธี เช่น การเต้นไปตามจังหวะดนตรี โดยการเปิดเพลงเร็วบ้าง ช้าบางให้ลูกเคลื่อนไหวร่างกาย ส่งเสริมให้ลูกเล่นกีฬาเพื่อเสริมกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนในน้ำช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายเคลื่อนไหวทุกส่วน แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
กล้ามเนื้อนิ้วแข็งแรงขึ้นและสามารถคัดลายมือได้สวยงามมากขึ้น


ฉลาดสื่อสาร
ภาษาของลูกมีแบบแผนตามหลักไวยากรณ์มากขึ้น จากการที่คุณครูสอนที่โรงเรียน หรือหากคุณแม่สอนที่บ้านก็จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้ดีขึ้น
ยังคงชอบฟังเพลงอยู่ หากเขาได้ยินเพลงที่คุณแม่เปิดซ้ำๆ ทุกวันบนรถตอนรับส่งเขาไปโรงเรียน เขาจะสามารถร้องตามได้ ซึ่งหลักการนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ดีหากคุณแม่อยากสอนภาษาที่สองให้แก่ลูก โดยเปิดเพลงภาษานั้นๆ ให้ลูกฟังบ่อยๆ เขาก็จะจำรูปแบบการออกเสียงได้
ยังคงชอบเล่นบทบาทสมมติและชอบเล่นเป็นกลุ่มกับเพื่อน กล้าพูด กล้าคุย พัฒนาการทางด้านภาษาดีขึ้น คุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะการอ่านการเขียนให้ลูกได้ โดยสอนหลักการ ให้ลูกเข้าใจมากกว่าการท่องจำ ซึ่งนิทานและหนังสือความรู้ต่างๆ เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับเรื่องนี้


ฉลาดด้านอารมณ์
หากลูกเสนอตัวเพื่อช่วยเหลืองานบ้าน หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นั่นหมายถึงเขาอยากทำมันจริงๆ และตั้งใจที่จะช่วยเหลือจริงๆ  เช่น ช่วยแม่ล้างจาน ช่วยเพื่อนถือหนังสือ หรือช่วยคุณครูเก็บเอกสาร ซึ่งเป็นพฤติกรรมเชิงบวกที่เราควรส่งเสริม และไม่ลืมแสดงความชื่นชมเพื่อให้ลูกรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำสิ่งดี
ลูกวัยนี้จะเล่นหรือทำกิจกรรมกับเพื่อนได้นานขึ้น โดยเคารพกติกาที่ตั้งไว้ และสามารถรอคอย โดยไม่แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อดทนที่จะพยายามทำกิจกรรมต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ
ชอบแสดงออก และให้ความร่วมมือเวลาที่คุณครูมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ

แม้ว่าลูกดูเหมือนจะโตขึ้น  แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังคงต้องคอยหมั่นทบทวนและต่อยอดการเรียนรู้ต่างๆ ทั้งด้านความฉลาดเรียนรู้ ฉลาดเคลื่อนไหว ฉลาดสื่อสาร และฉลาดอารมณ์ ให้ลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 5 ปี 11 เดือน

เด็กๆ ชอบคำชม เมื่อคุณแม่ชม ลูกจะมีกำลังใจในการที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ให้บรรลุตามเป้าหมาย และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกอีกด้วย...ไปดูกันว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ



ฉลาดเรียนรู้
บอกชื่อสีและรูปทรงได้ถูกต้อง
บอกชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ได้ บางคนบอกวันเดือนปีเกิดได้
เข้าใจเรื่องที่เป็นนามธรรมอย่างเรื่องรูปทรง ความสูงได้ ซึ่งการใช้ไม้บรรทัดใช้ความสูงหรือความยาว จะทำให้เขาเข้าใจความสูงเป็นรูปธรรมมากขึ้นได้
เมื่อได้ฟังนิทานหรือเรื่องเล่าจะสามารถถ่ายทอดต่อได้อย่างถูกต้อง
สมองของลูกจะจดจำประสบการณ์ที่เคยทำมาได้ เช่น หากเคยได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุ การบาดเจ็บจากการเล่นโลดโผน เขาจะระมัดระวังมากขึ้น  


ฉลาดเคลื่อนไหว
เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและทรงตัวได้ดีขึ้น สามารถวิ่งเร็วขึ้น ปีนป่าย ลื่นไถล โหนตัวไปมา กระโดดได้ไกล ยืนและวิ่งเขย่งปลายเท้าได้นาน
บางคนที่ฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหวและการทรงตัวบ่อยๆ และทำได้ดีจะสามารถหัดขี่จักรยานสองล้อได้แล้ว
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดเล็กทำให้ลูกสามารถบังคับนิ้วให้วาดภาพต่างๆ ได้ดีขึ้น มีรายละเอียดมากขึ้น เช่น วาดรูปบ้านมีประตู หน้าต่างและหลังคาได้ และบอกได้ก่อนว่าจะวาดอะไร และบางคนสามารถสนเข็มเล่มใหญ่ๆ ได้


ฉลาดสื่อสาร
พัฒนาการทางด้านภาษาของลูกพัฒนาขึ้นตามลำดับ  สามารถเล่าสิ่งที่พบเจอให้คุณพ่อคุณแม่หรือคนที่บ้านฟังได้
สนใจคำศัพท์ใหม่ๆ มากขึ้น พยายามค้นหาความหมายของคำ
หากสงสัยจะถามโดยใช้คำถามแบบมีจุดมุ่งหมายมากขึ้นกว่าเดิม
พูดได้ชัดเว้นแต่บางคนที่ฟันน้ำนมเริ่มหลุดอาจจะทำให้ออกเสียงบางคำไม่ชัดได้
คุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะด้านการอ่านการเขียนให้ลูก โดยการให้ลูกอ่านแบบทำความเข้าใจไม่ใช่การท่องจำ


ฉลาดด้านอารมณ์
ลูกสามารถแสดงอารมณ์ของตนเองได้ชัดเจน ขณะเดียวกันก็รับรู้ถึงอารมณ์ของผู้อื่นได้ดีด้วยเช่นกัน เป็นกระบวนการทำงานในสมองที่ควบคุมทางด้านอารมณ์ความรู้สึก ลูกจึงแสดงความรู้สึกต่างออกทางสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียง
เข้าใจอารมณ์ของตนเองว่าเป็นอย่างไร รู้ว่าตนเองมีอารมณ์เหล่านั้นเพราะอะไร เช่น “ตอนนี้ห้องมืดตื๋อ หนูกลัวผีมาหา”  และด้วยพัฒนาการทางภาษาที่มากขึ้น จึงสามารถที่บอกอารมณ์ความรู้สึกของตนเองออกมาให้คนอื่นรับรู้ได้
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักวิธีจัดการกับปัญหาอารมณ์ของตัวเองอย่างมีเหตุผล ฝึกหัดให้ควบคุมตัวเองเวลาโกรธ โมโห รู้จักการใช้คำพูดสื่อสารเพื่อบอกความต้องการ แทนที่จะใช้วิธีการเอะอะโวยวายหรือการใช้คำพูดเพื่อการต่อว่า


ลูกเติบโตและรู้เรื่องมากขึ้น เข้าใจเหตุผลมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังเป็นเด็กที่ต้องการสั่งสมประสบการณ์ ฝึกฝนทักษะต่างๆ เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และอัจฉริยะรอบด้านสำหรับการเติบโตและก้าวสู่วัยต่อไปได้อย่างราบรื่นด้วยนะคะ

พัฒนาลูกน้อย วัย 5 ปี 10 เดือน

ลูกอาจจะโกรธได้ ซึ่งเป็นพัฒนาการทางอารมณ์อย่างหนึ่งของเด็ก พ่อแม่คือคนที่จะทำให้ลูกสามารถแสดงออกซึ่งอารมณ์โกรธอย่างเหมาะสม และไปดูกันว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้างค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
ลูกสามารถเรียงลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เห็นจากภาพได้ และอธิบายให้คนอื่นฟังได้รู้เรื่อง

สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของวัตถุ สิ่งของ หรือการกระทำได้ เช่น ไก่ เป็ด หมา แมว

เล่าเรื่องโดยเฉพาะเรื่องที่สนใจ ที่ลูกได้ยินจากโทรทัศน์ หรือฟังจากคนอื่นเล่ามาได้ หรือเห็นด้วยตัวเองได้ดี



ฉลาดเคลื่อนไหว
การทำงานของกล้ามเนื้อแขนขาและสายตาประสานสัมพันธ์กันดี สามารถรับส่งสิ่งต่างๆ ได้ดี เช่นการรับส่งลูกบอล

เมื่อเล่นอยู่ในสนามจะสามารถไล่จับลูกบอลที่กลิ้งได้ดี

ลูกสามารถทรงตัวได้ดีขึ้น เมื่อคุณแม่เปิดเพลงและชวนลูกเต้น เขาจะทำอย่างชอบใจ

สามารถวาดรูปตามแบบได้ วาดรูปคนมีส่วนหัว แขน ขา ลำตัวได้ วาดรูปบ้านมีประตู หน้าต่าง และหลังคาได้



ฉลาดสื่อสาร
คัดลอกพยัญชนะบางตัวได้ดีขึ้นกว่าเดิม

หมั่นทบทวนการสะกดคำง่ายๆ เพื่อต่อยอดจากสิ่งที่ลูกเรียนรู้มาจากโรงเรียน ให้ลูกสามารถอ่านและเขียนได้คล่องขึ้น

สามารถส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้ภาษาที่หลากหลาย โดยเริ่มจากง่ายๆ ก่อน และควรทำซ้ำๆ บ่อยๆ



ฉลาดด้านอารมณ์
รู้บทบาทหน้าที่ของตนเองที่บ้านและที่โรงเรียน ซึ่งคุณแม่หรือคุณครูควรสอนให้ลูกเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ

เมื่อทำการบ้านส่งคุณครูที่โรงเรียนจะแสดงออกด้วยสีหน้าภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง และยิ่งมีใครชมก็จะยิ่งดีใจมากขึ้น

รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายได้ดีขึ้น มีความตั้งใจและพยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จมากขึ้น

ชอบชวนเพื่อนเล่นบทบาทสมมติ



แม้ว่าลูกจะเข้าโรงเรียนแล้วก็ตาม แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังคงต้องคอยหมั่นต่อยอดทักษะด้านต่างๆ ทั้งด้านความฉลาดเรียนรู้ ฉลาดเคลื่อนไหว ฉลาดสื่อสาร และฉลาดอารมณ์ ให้ลูกอย่างสม่ำเสมอ  เพื่อพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกค่ะ 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 5 ปี 9 เดือน

ลูกมีฟันแท้ซี่แรกขึ้นแล้ว โดยฟันน้ำนมจะค่อยๆ หลุดออกไปที่ซี่สองซี่ ซึ่งในช่วงนี้ลูกอาจจะออกเสียงได้ไม่ชัดเจนนักในบางคำ คุณแม่ก็ต้องเข้าใจด้วยนะคะ...ไปดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้กันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
นับนิ้วมือข้างหนึ่งต่อเนื่องไปอีกข้างหนึ่งได้

เข้าใจเรื่องขนาดและคำแสดงปริมาณ เช่น ครึ่งหนึ่ง กับทั้งหมด ใหญ่เล็ก มากกว่า น้อยกว่า สูงสุดเตี้ยสุด

บอกจำนวนสิ่งของได้

สนใจคำใหม่ ๆ และ พยายามค้นหาความหมายของคำ



ฉลาดเคลื่อนไหว
การเคลื่อนไหวร่างกายทำได้ดีมากขึ้น กิจกรรมโลดโผนยังเป็นที่ชื่นชอบของลูกวัยนี้ หากคุณครูมีสถานที่ให้เขาตีลังกา กระโดดสูง เขาจะชอบมาก ซึ่งก็ควรสอนให้ลูกเรียนรู้วิธีที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยด้วย

ปีนป่าย ลื่นไถล โหนตัวไปมาได้คล่อง

วาดรูปบ้านมีประตู หน้าต่างและหลังคาได้

กล้ามเนื้อมือทำงานสัมพันธ์กับตาได้ดีจนสามารถร้อยไหมพรมขึ้นลงบนแผ่นพลาสติกที่เจาะเป็นรูๆ ได้



ฉลาดสื่อสาร
ชอบท่องหรือร้องเพลง ที่มีจังหวะและเนื้อร้องที่มีคำสัมผัสกัน

ลูกสามารถเรียนรู้ที่จะสะกดคำง่ายๆ ได้แล้ว จากที่คุณครูสอน ซึ่งคุณแม่ควรทบทวนและสนับสนุนให้ลูกหัดอ่านหัดเขียนคำต่างๆ เหล่านั้นที่บ้านด้วย

หากคุณแม่อยากจะส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้ภาษาที่หลากหลาย ลูกวัยนี้ก็พร้อมที่จะเรียนรู้ได้แล้ว โดยเริ่มจากคำง่ายๆ ก่อน



ฉลาดด้านอารมณ์
รู้จักการผูกมิตร การแบ่งปันของเล่น การเป็นเพื่อนกัน

ลูกสามารถรับรู้เรื่องการจากพรากได้ดีขึ้น โดยเฉพาะหากมีประสบการณ์การสูญเสียสัตว์ที่รักหรือคนรู้จัก บางครั้งการสูญเสียที่เกิดขึ้นอาจทำให้ลูกพัฒนาการถดถอยได้ชั่วขณะ และแสดงออกด้วยการเก็บตัว พูดน้อยลง หรือกลับมาดูดนิ้วกัดเล็บได้ คุณแม่ควรปลอบประโลมและอยู่ใกล้ๆ ลูก  



              เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องสนุกตื่นเต้น แต่ยังมีเรื่องที่น่าเศร้าอีกมากมายที่พร้อมจะแทรกตัวเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้ทุกเมื่อ ฉะนั้น การทำความเข้าใจในเรื่องการจากพรากให้ลูกมีภูมิต้านทานไว้บ้างจะช่วยให้ลูกรับกับสถานการณ์ไม่คาดฝันได้มากขึ้น

พัฒนาการลูกน้อย วัย 5 ปี 8 เดือน

ฝึกลูกเป็นเด็กที่อดทน อดกลั้น เพื่อให้ลูกมองโลกในแง่ดี ด้วยการแสดงความรัก ผ่านคำพูด และการกอดสัมผัส พูดด้วยนำเสียงที่สงบและอ่อนโยน คุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่ขัดแย้ง ไม่พึงพอใจ ในเรื่องต่างๆ เพื่อให้ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์...ไปดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้กันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
สมองทำงานเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน มีการนำข้อมูลนำเข้าสมอง ขณะเดียวกับสมองก็สั่งการให้ทำสิ่งต่างๆ ที่ทำงานสอดประสานกัน ลูกจึงจดจำได้ดี

สามารถแยกซ้าย –ขวาได้ถูกต้อง ซึ่งเป็นความสามารถของสมองในด้านมิติสัมพันธ์ การจัดวาง การมองภาพรวม มีผลต่อการเรียนรู้ในเรื่องของการจำเป็นภาพ

สามารถวาดรูปคนมีหัว ลำตัว แขน ขา และใบหน้าได้



ฉลาดเคลื่อนไหว
การเคลื่อนไหวที่พัฒนาขึ้นเป็นผลจากสมองที่พัฒนาขึ้นจากการกระตุ้นด้วยกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันของลูก คุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้เคลื่อนไหวบ่อยๆ เพื่อให้การเคลื่อนไหวของลูกมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากไม่ได้รับการส่งเสริมทางร่างกาย ได้รับการประคบประหงมมากเกินไป ร่างกายก็จะอ่อนแอและพัฒนาได้ไม่เต็มศักยภาพ

เรียนรู้การออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลายมากขึ้น เขาจะกระโดด วิ่งเล่น และจะชอบกีฬาที่ต้องใช้ความสามารถทางร่างกาย ส่วนใหญ่เด็กผู้ชายจะชอบเล่นฟุตบอล เด็กผู้หญิงมักชอบเล่นซ่อนหา



ฉลาดสื่อสาร  
เรียนรู้คำใหม่ได้ทุกวัน คุณแม่จึงควรส่งเสริมให้ลูกได้รู้จักคำใหม่ๆ จากสถานที่ต่างๆ เช่น ชื่อของต้นไม้ที่แตกต่างกัน หรือประเภทของเครื่องใช้ในครัวเรือน ฯลฯ

คุณแม่สามารถส่งเสริมการใช้ภาษาที่ถูกต้องด้วยการพูดอักขระที่ชัดถ้อยชัดคำ เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูก

ฝึกให้ลูกตอบคำถามด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น เล่นเกมสร้างสรรค์ อ่านหนังสือ



ฉลาดด้านอารมณ์
ทำตามหน้าที่ของตัวเองในชั่วโมงเรียนได้ดี แต่ครูผู้สอนยังต้องคอยชี้แนะและกระตุ้นเตือนอยู่บ้าง

มีการแบ่งของกันเล่นกับเพื่อน รู้จักรอคอยเมื่อยังไม่ถึงเวลาที่ตนได้เล่น

หากเป็นลูกคนโต คุณแม่ต้องชื่นชมเมื่อเขาแสดงบทบาทของพี่ที่คอยดูแลและช่วยเหลือน้อง เพื่อให้ลูกภูมิใจในบทบาทของการเป็นพี่



อย่าลืมนะคะว่า เด็กวัยนี้ต้องการคำชม และการพูดถึงส่วนที่ดีของเขาบ่อยๆ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ สร้างความฉลาดอารมณ์ให้เขาสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเชื่อมั่นมากขึ้นค่ะ 

พัฒนาการลููกน้อย วัย 5 ปี 7 เดือน

แม้จะยังควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีนัก แต่ลูกก็ทำได้ดีตามวัย แม้จะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง แต่เป็นไปอย่างเหมาะสม หากคุณแม่ค่อยๆ สอนด้วยการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวก ลูกก็จะเรียนรู้ความฉลาดอารมณ์ได้...ไปดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้กันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
ทำกิจกรรมต่างๆ โดยมีการคิดและวางแผน เป็นขั้นตอนและเชื่อมโยงกัน

จัดแยกกลุ่มได้ตามขนาดสี รูปร่าง และจับคู่สิ่งของได้

ชอบเล่นเกมจิกซอว์ โดมิโนภาพ

รู้จักมือซ้ายหรือขวา แต่เฉพาะมือของตัวเอง

แยกความแตกต่างของสี่เหลี่ยมผืนผ้าและสี่เหลี่ยมจัตุรัสได้ และเมื่อบอกให้วาดรูปสิ่งที่เขารู้จักอย่างหุ่นยนต์  เขาสามารถวาดรูปโดยการเชื่อมโยงหุ่นยนต์กับรูปทรงของสี่เหลี่ยมได้ หากหุ่นยนต์ที่เขาเคยเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เขาก็จะวาดหุ่นยนต์รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามากกว่า



ฉลาดเคลื่อนไหว
เด็กที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอจะมีเนื้อของผิวสมอง (cortical mass) มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ออกกำลังกาย เพราะการเคลื่อนไหวหรือการออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือดส่งผลให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ควรส่งเสริมให้ลูกการออกกำลังกาย เช่น ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เล่นฟุตบอล แบดมินตัน ฯลฯ หรือทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหว เช่น นาฏศิลป์ รำไทย เต้นรำ บัลเลต์ เป็นต้น

นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลางแข็งแรง จนจับดินสอเขียนหนังสือได้ดี



   

ฉลาดสื่อสาร
ลูกเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ มากขึ้นจากเพื่อน คุณครู และสถานการณ์ต่างๆ ที่พบเจอในแต่ละวัน

ยิ่งลูกมีประสบการณ์ที่หลากหลาย จะสามารถเพิ่มพูนคำศัพท์ในคลังสมองได้มากขึ้นตามไปด้วย เช่น ถ้าลูกได้รับการส่งเสริมให้เรียนรำไทย ก็จะรู้จักคำศัพท์ต่างๆ เกี่ยวกับท่าร่ายรำต่างๆ ถ้าลูกได้เล่นกีฬา ก็จะเข้าใจความหมายของคำศัพท์ที่เกี่ยวกับกีฬาประเภทนั้นๆ เป็นต้น



ฉลาดด้านอารมณ์
บอกหรือแสดงความรู้สึก ความต้องการ และอารมณ์ของตนเองได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม แต่บางครั้งลูกก็อาจจะมีพูดเสียงดังได้  เมื่อต้องการให้ผู้อื่นยอมรับ

ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น รู้จักการรอคอยด้วยท่าทีที่สงบ เข้าใจเหตุผลมากขึ้น

เล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกันทั้งกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อยได้

คบเพื่อนได้หลากหลาย จนเกิดการเรียนรู้ เล่น และทำกิจกรรมด้วยกัน

พัฒนาการลูกน้อย วัย 5 ปี 6 เดือน

วัยนี้เป็นวัยแห่งการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการคิดและสื่อสารมากขึ้น เข้าใจสิ่งรอบๆ ตัว มีความคิดและจินตนาการที่ซับซ้อนขึ้น ลูกจึงมีวิธีการเล่นที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการเล่นบทบาทสมมติ ไปดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้กันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
เมื่อคุณแม่บอกให้ลูกทำสิ่งใดๆ ลูกจะเข้าใจและทำตามได้ดี

เข้าใจความเหมือนและความต่างของสิ่งต่างๆ เช่น ลูกบอลลูกกลมๆ เหมือนกัน แต่บอลแต่ละชนิดมีวิธีการเล่นที่ต่างกัน กีฬาแต่ละประเภทก็ต่างกันด้วย

แสดงความสนใจในอาชีพต่างๆ เช่น อยากเป็นคุณครู เป็นหมอ

มีจินตนาการ สามารถใช้ความคิดหรือจินตนาการในการหาเศษวัสดุมาประดิษฐ์สิ่งต่างๆ



ฉลาดเคลื่อนไหว
สายตากับกล้ามเนื้อแขนขาประสานสัมพันธ์กันดี

ลูกรับส่งลูกบอลได้อย่างตรงเป้าหมาย

ร้อยลูกปัดได้คล่องขึ้น

อาบน้ำเองได้ดีขึ้น แต่งตัวเองได้ โดยติดกระดุมเม็ดใหญ่ได้

ขี่จักรยานสามล้อได้ดีจนพร้อมจะเรียนรู้การขี่จักรยานสองล้อแล้ว



ฉลาดสื่อสาร
มีคลังคำศัพท์มากขึ้น พูดเป็นเรื่องราว เชื่อมโยงสิ่งต่างๆ กับตนเอง

ชอบตั้งคำถามเป็นประโยคที่มีความหมายมากขึ้น สนทนาโต้ตอบ หรือเล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง

พูดได้คล่องและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่ยังออกเสียงพยัญชนะบางตัวไม่ชัดเจน เช่น  ส ฟ ว

บอกความหมายของคำนามได้



ฉลาดด้านอารมณ์
สามารถทำกิจกรรมต่างๆ โดยคุณแม่ไม่ต้องอยู่ด้วย แต่อาจจะมีความกลัวอยู่บ้าง

เมื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายหรือทำสิ่งใดสำเร็จจะแสดงให้คุณแม่รู้ว่าดีใจ อาจจะด้วยคำพูดหรือท่าทาง

ขณะเดียวกัน บางครั้งลูกก็แสดงให้เห็นว่า “หนูก็เป็นตัวของตัวเอง” โดยต่อต้านและไม่ยอมทำตาม



คุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้จากการ ได้สัมผัสของจริง หรือมีประสบการณ์ตรงกับสิ่งนั้น บ้าง จะช่วยให้ความฉลาดเรียนรู้ของลูกยั่งยืนมากกว่าการท่องจำค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 5 ปี 5 เดือน

วัยนี้เป็นวัยที่มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ สามารถเรียนรู้เรื่องอารมณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไปดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้กันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
มีพัฒนาการของการรับรู้มากขึ้น สามารถแยกแยะตำแหน่งหน้า-หลัง บน-ล่าง ใน-นอก ได้แล้ว

สามารถต่อภาพจิกซอว์ขนาด 26 ชิ้นได้สำเร็จ ซึ่งนั่นหมายถึงลูกมีสมาธิและการจดจ่อมากขึ้น และเมื่อลูกทำได้สำเร็จต้องไม่ลืมชื่นชมเพื่อเป็นกำลังใจให้ลูกทำสิ่งนั้นๆ ต่อไปด้วย

ลูกจะท่องจำเลข 1-30 ได้ แต่อาจจะยังขาดความเข้าใจเรื่องการเรียงลำดับ การเพิ่มจำนวน  ความหมายของเลขที่ท่องนั้น

มีความจำดี สามารถเล่าเรื่องในอดีตได้



ฉลาดเคลื่อนไหว
กระโดดได้สูงประมาณ 1 ฟุต คุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้เล่นสนุกโลดโผนบ้าง โดยคอยระวังเรื่องความปลอดภัย

หากคุณแม่หรือคุณครูให้ลูกทำกิจกรรม เช่น กระโดดขาเดียวเขาจะสามารถทำได้ประมาณ 8  ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนมาก่อน

ยืนเขย่งปลายเท้าได้นานหลายวินาที

กล้ามเนื้อมือพัฒนาจนเขียนหนังสือได้ดี



ฉลาดสื่อสาร
ทักษะการอ่านและการเขียนดีขึ้น หากคุณแม่เคยสอนมาก่อนหน้านี้พัฒนาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเพิ่งเริ่มทำ เขาก็จะทำได้เพราะทักษะการใช้มือและสมองพร้อมสำหรับการเรียนรู้มากขึ้น

วัยนี้มีคลังความจำในสมองมากมาย จึงสามารถพูดโต้ตอบได้ดี



ฉลาดด้านอารมณ์
เมื่อลูกเสียใจหากมีเหตุการณ์ที่ลูกทำผิดพลาด คุณแม่ควรถือโอกาสนี้สอนให้ลูกเรียนรู้ว่าคนเราก็สามารถทำผิดได้ แต่เราควรเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดนี้ให้เป็นบทเรียน ลูกเสียใจได้แต่เมื่อเสียใจแล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ตนเอง

หากลูกมีปัญหากับเพื่อน ควรช่วยให้ลูกจัดการกับความรู้สึกด้วยการถามความรู้สึกของลูก เช่น แม่รู้ว่าหนูกำลังโกรธ แต่บอกแม่ได้ไหมว่าหนูโกรธเรื่องอะไร หลังจากนั้นอธิบายเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยท่าทีที่สงบ

แสดงออกถึงความรู้สึกดีใจ หากเพื่อนๆ หรือคุณครู ชมเชยหรือเห็นถึงความสำคัญแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 5 ปี 4 เดือน

สมองของลูกที่ควบคุมการเคลื่อนไหวพัฒนา เติบโตสอดคล้องกับพัฒนาการของกล้ามเนื้อ นั่นหมายถึงสมองพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น ดังนั้นคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกออกกำลังกายเพื่อให้สมองพัฒนาและกล้ามเนื้อแข็งแรงด้วย ไปดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้กันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
เพราะมีจินตนาการกว้างไกล ดังนั้นโลกของจินตนาการและโลกของความเป็นจริงจะสอดคล้องกันจนเด็กบางคนแยกไม่ออก

ชอบเล่นบทบาทสมมติ ซึ่งเด็กแต่ละคนอาจจะชอบอาชีพที่แตกต่างกันไปตามประสบการณ์ที่พบเจอ

มีคำถามมากมายที่จะรอคอยคำตอบเพื่อการเรียนรู้ต่อไป จึงไม่ควรรีรอที่จะตอบข้อสงสัยของลูก ขณะเดียวกันก็กระตุ้นด้วยการตั้งคำถามอย่างเหมาะสมเพื่อให้ลูกคิดตามและสมองได้ทำงานด้วย



ฉลาดเคลื่อนไหว
การทำงานระหว่างกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เป็นไปด้วยดี เช่น สามารถวิ่งไปพร้อมกับเตะลูกฟุตบอลได้

กระโดดไปข้างหน้าข้ามเชือกที่สูงจากพื้น โดยเท้าทั้ง 2 ข้างถึงพื้นพร้อมกัน

กระโดดได้ไกล โดยเท้าทั้ง 2 ข้าง ถึงพื้นพร้อมกัน

เรียนรู้การกระโดดยกขาเดียว สลับกับอีกขาหนึ่งไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง



ฉลาดสื่อสาร
ชอบให้คุณแม่อ่านหนังสือให้ฟัง แต่ขณะเดียวกันก็ชอบแยกไปนั่งตามลำพังเพื่อเปิดอ่านและดูรูปในหนังสือที่ตัวเองชอบ

เวลาได้ฟังเรื่องตลกจะหัวเราะชอบใจจนตัวงอ

ชอบฟังนิทานหลากหลายประเภท โดยเฉพาะนิยาย

เริ่มเรียนรู้ทักษะทางภาษาที่หลากหลายขึ้น พูดได้ดีขึ้น และเขียนได้ดีขึ้น



ฉลาดด้านอารมณ์
เป็นวัยที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการปลูกฝังเรื่องการนับถือตัวเองหรือ Self Esteem

วิธีง่ายๆ คือกล่าวชื่นชมในสิ่งที่ลูกทำได้ดี หากสิ่งไหนที่ลูกยังทำได้ไม่ดี ให้ชี้แนะมากกว่าตำหนิโดยไม่บอกเหตุผลหรือแนวทางปรับปรุงตัวให้ลูก

สอนให้ลูกเคารพผู้อื่นโดยไม่พูดแทรกขณะที่ผู้ใหญ่กำลังพูด หรือไม่ยืนค้ำศีรษะผู้ใหญ่

เวลาอยู่ที่โรงเรียนหากคุณครูมอบหมายหน้าที่ให้จะทำด้วยความเต็มใจ เพราะรู้บทบาทหน้าหน้าที่ของตนเอง แต่คุณครูอาจจะต้องคอยชี้แนะบ้าง

เวลาที่ลูกพูดหรือเล่าเรื่องต่างๆ เขาต้องการให้มีคนฟัง ถ้ามีคนฟังก็จะพูดได้ไม่หยุด

 คุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกวัยนี้กล้าทำในสิ่งที่ถูก และยอมรับความผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ



เห็นได้ว่าทักษะทั้ง 4 ด้านของลูกน้อยเด่นชัดขึ้นมาก ซึ่งคุณแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีทักษะต่างๆ ไปตามกิจวัตรประจำวันของลูก 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 5 ปี 3 เดือน

การสอนให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง มีวินัยและความรับผิดชอบอย่างเหมาะสมคือหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยนี้ค่ะ เพื่อปูพื้นฐานที่ดีให้ลูกเมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มาดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้กันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
ลูกวัยนี้จะมีการแสวงหาคำตอบด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น ถามคุณแม่ เปิดดูในหนังสือ
มีทักษะในการจดจำเพิ่มขึ้น สามารถเก็บข้อมูลและถ่ายทอดได้ดีขึ้น
เริ่มมีเหตุมีผลมากกว่าเดิม
หากลูกเล่น หรือทำกิจรรมใดๆ เมื่อเจอปัญหาหรืออุปสรรค จะปรับตัวและลองผิดลองถูกกับการแก้ปัญหาด้วยวิธีต่างๆ
คุณแม่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาของลูกได้ ด้วยการชวนลูกวางแผนล่วงหน้าเมื่อจะทำกิจกรรมใดๆ โดยผลัดกันเป็นผู้นำและผู้ตาม


ฉลาดเคลื่อนไหว
สายตากับกล้ามเนื้อแขนขาทำงานประสานสัมพันธ์กันได้ดี สังเกตได้จากเวลาที่ลูกเล่นฟุตบอล เขาจะเตะได้ตรงเป้าหมายมากกว่าเดิม สามารถเลี้ยงลูกบอลได้นานขึ้น

ลูกสามารถเดินต่อเท้าถอยหลังได้ดี โดยทรงตัวบนไม้กระดานแผ่นเดียวหรือเชือกที่วางบนพื้น รวมทั้งกระโดดด้วยเท้าทั้งสองข้างและแยกขาออกจากกันได้ สามารถยืนขาเดียวและทรงตัวได้นานในระยะเวลาสั้นๆ

มีความมั่นใจในในการปีนป่าย ไถลลื่น และเคลื่อนไหวบนพื้นต่างระดับและทรงตัวได้ดี

กระโดดข้ามขาเดียวอย่างชำนาญ เช่น การกระโดดเชือกแบบต่างๆ ได้



ฉลาดสื่อสาร
รู้จักคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณแม่เพิ่มเติมคำศัพท์ให้ลูก มากแค่ไหนด้วย

เข้าใจความหมายของคำต่างๆ ได้มากขึ้น เช่น การเล่นเกม การเล่นกีฬา เขาจะรู้ว่าเป็นอย่างไร และเมื่อจะต้องเล่นกีฬาก็ต้องมีการแต่งกายที่เหมาะสม เป็นการเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตประจำวัน

ลูกวัยนี้จะชอบตั้งคำถามที่มีความหมายมากขึ้น

เรียนรู้ศัพท์ราว 8,000-14,000 คำ ทำให้สื่อสารด้วยคำพูดได้มากขึ้น

ชอบฟังเรื่องราวต่างๆ ที่ตนเองสนใจเป็นเวลานานๆ ได้



ฉลาดด้านอารมณ์
ปรับตัวเพื่อเข้ากลุ่มเพื่อน เพื่อนเริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้น

แสดงออกถึงการเป็นผู้นำและผู้ตาม โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยแนะนำ หรือทำให้ดูเป็นตัวอย่างจากการเล่นเกม หรือกิจกรรมต่างๆ ภายในครอบครัว

ไม่แสดงอาการหงุดหงิดเมื่อต้องทำกิจกรรมที่ยากหรือต้องใช้เวลาในการลองผิดลองถูก

มีความสามารถในการจัดการอารมณ์อย่างสอดคล้องกับวัย เข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่น แสดงความเห็นอกเห็นใจบอกความต้องการได้มากขึ้น

มีความรับผิดชอบต่องานที่ทำมากขึ้น เช่น การบ้าน และการช่วยเหลือตัวเองต่างๆ



คุณแม่สามารถสอนเรื่องความรับผิดชอบให้แก่ลูกโดยสอดแทรกเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน จากเรื่องง่ายๆ เช่น เมื่อเล่นของเล่นเสร็จแล้ว ให้ลูกเก็บของเข้าที่ ให้ลูกเก็บรองเท้าเข้าตู้ กลับบ้านมาต้องทำการบ้านให้เรียบร้อยก่อนเล่น เป็นต้น 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 5 ปี 2 เดือน

หากคุณแม่เห็นลูกวัยนี้เล่นคนเดียว พร้อมส่งเสียงพูดคุยเป็นเรื่องเป็นราวเจื้อยแจ้วเหมือนอยู่กับเพื่อน หรืออยู่กันหลายๆ คน อย่าเพิ่งตกใจค่ะ เด็กวัยนี้มีโลกจินตนาการ ซึ่งการที่ลูกวัยนี้มีโลกแห่งจินตนาการไม่ใช่เรื่องปกติ และจะส่งผลดีต่อพัฒนาการได้เช่นกัน  ดังนั้นคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นบทบาทสมมุติเป็นการส่งเสริมจินตนาการให้ลูกค่ะ และพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้างไปดูกันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
สามารถเข้าใจเรื่องขนาดและคำที่แสดงปริมาณได้

สามารถนับนิ้วมือจากข้างหนึ่งต่อไปยังนิ้วมืออีกข้างหนึ่งได้

สามารจับคู่จำนวนกับสิ่งของได้

มีความเข้าใจเรื่องขนาด สี รูปร่าง และรู้ว่าอะไรควรคู่กับอะไร

นอกจากจะมีจินตนาการสูง ยังชอบเกมฝึกสมองประลองปัญญา ชอบคิด และทำงานศิลปะ วาดรูป ระบายสี



ฉลาดเคลื่อนไหว
กระโดดกางขา สลับขา และกระโดดได้ไกลขึ้น

เดินต่อเท้าถอยหลังเป็นเส้นตรง โดยไม่ต้องกางแขนได้อย่างชำนาญ

เรียนรู้การกระโดดยกขาเดียว สลับกับอีกขาหนึ่งไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

เดินถอยหลัง ด้วยการใช้ปลายเท้าไปสู่ส้นเท้า

ปีนป่าย ลื่นไถล โหนตัวไปมาได้คล่อง ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดี



ฉลาดสื่อสาร
สามารถสื่อสารบอกได้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรได้

ลูกน้อยจะชอบเล่าเรื่องต่างๆ ให้คุณแม่ฟัง เช่น เรื่องที่ได้พบเจอที่โรงเรียน ดังนั้นเพื่อส่งเสริมทักษะด้านการสื่อสารภาษา ทุกๆ วันที่กลับมาจากโรงเรียนคุณแม่ลองถามเพื่อกระตุ้นให้ลูกเล่า เป็นการกระตุ้นให้ลูกได้คิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด

การที่ลูกได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตั้งข้อสังเกต ตลอดจนบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึก จะช่วยให้ลูกรับรู้เรื่องราวต่างๆ ของคนแต่ละคนว่ามีความหลากหลายไม่เหมือนกัน บางคนต้องเจอกับความลำบากของชีวิตที่ไม่เหมือนกัน

นิทาน เพลง และหนังสือที่เป็นความรู้รอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องเกี่ยวกับร่างกายของเรา สัตว์ต่างๆ ในทะเล ไดโนเสาร์ ยังคงเป็นเครื่องมือเพิ่มพูนภาษา เสริมสร้างจินตนาการ และสื่อความรู้ให้ลูกอย่างดี



ฉลาดด้านอารมณ์
เมื่อต้องทำในสิ่งที่ยาก หรือเมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่พอใจ จะสามารถควบคุมอารมณ์ของได้มากขึ้น ลูกจะยิ่งทำได้ดีหากคุณแม่คอยสอนเทคนิค เช่น เวลาโกรธ ให้นับ 1-10  หรือเปลี่ยนไปสนใจเรื่องอื่นแทน เป็นต้น

เด็กที่มีปัญหาเรื่องการเข้ากลุ่มกับเพื่อน เด็กที่ไม่มั่นใจในตัวเอง จะค่อนข้างเขินอาย และเก็บตัว มีเพื่อนน้อย ซึ่งคุณแม่สามารถสังเกตได้ว่าลูกเรามีปัญหาทำนองนี้หรือไม่จากอาการที่ลูกแสดงออกมา เพราะลูกวัยนี้จะแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัว ไม่กล้า อาย เขิน

เมื่อมีการกำหนดกฎกติกาในบ้าน หรือที่โรงเรียนจะสามารถปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสม



เด็กทุกคนต้องการแบบอย่างที่ดี ซึ่งคนที่มีบทบาทและเป็นแบบอย่างที่สำคัญที่สุดก็คือคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 5 ปี

ร่างกายลูกน้อยเจริญเติบโตอย่างเห็นได้ชัด  รูปร่างเริ่มสมส่วน ขนาดของศีรษะโตเกือบเท่าวัยผู้ใหญ่ พัฒนาการทางสายตาดีขึ้นมองได้กว้างไกลขึ้น  มาดูกันสิคะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง



ฉลาดเรียนรู้
เข้าใจเรื่องกฎกติกา เวลาอยู่ที่โรงเรียนสามารถฟังคำสั่งหรือโจทย์ใหม่ๆ กติกาใหม่ๆ เข้าใจ กล้าที่จะถามคุณครูเมื่อไม่เข้าใจ

มีเหตุผลมากขึ้น และถ้าได้รับการสอนจากคุณแม่มาตั้งแต่ต้นเขาจะมีเหตุผลมากกว่าเด็กคนอื่น

ชอบเล่นสนุกกับกิจกรรมใหม่ เพื่อนใหม่ๆ หากขณะเล่นมีเรื่องหรือเหตุการณ์ให้ต้องแก้ปัญหาคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่อาจต้องเขามาช่วย    

ลูกจะสนใจการอ่านและตัวเลข ควรสอนลูกรู้จักค่าของจำนวนนับ



ฉลาดเคลื่อนไหว
วัยนี้พลังและและกล้ามเนื้อขาแข็งแรงขึ้น ลูกสามารถกระโดดไปข้างซ้าย ข้างขวา และถอยหลังโดยเท้าทั้งสองข้างไปพร้อมๆ

สามารถขึ้น-ลงบันไดโดยก้าวเท้าสลับข้างกันบนขั้นบันไดแต่ละขั้นได้

กระโดดขาเดียวได้

วิ่งโดยมีการแกว่งแขน-ขาสัมพันธ์กันดี

เดินเข้าจังหวะเพลง ปรบมือเป็นจังหวะง่ายๆ ได้



ฉลาดสื่อสาร
วัยนี้ชอบพูด  เพราะเขาพูดได้ชัดเจน ใช้ถ้อยคำได้หลากหลาย จึงมีความกล้าที่จะพูดและถามมากขึ้น

เมื่อได้ยินคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน จะแสดงความสนใจและถามถึงความหมายของคำนั้นๆ

เมื่อสงสัยจะใช้ประโยคคำถามที่มีความหมาย มีจุดมุ่งหมาย เช่น ทำไมต้องเป็นสีฟ้า คุณแม่ต้องเตรียมคำตอบให้ลูกดีๆ แต่ถ้าคำถามไหนตอบไม่ได้ก็บอกลูกว่า แม่ไม่รู้  แล้วชวนกันหาคำตอบ



ฉลาดด้านอารมณ์
มีอารมณ์หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะร่าเริงแจ่มใส เพราะมีเพื่อนเล่นที่โรงเรียน ยกเว้นวันที่มีเรื่องไม่สบอารมณ์ หรือไม่ได้ดั่งใจก็หงุดหงิดได้เหมือนกัน

แสดงอารมณ์สนุกสนานจากการเล่นอย่างชัดเจน ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางน้อยลง

มีความผูกพันกับบุคคล สถานที่และสิ่งแวดล้อมรอบตัว



ลูกอายุครบ 5 ขวบ ดูเหมือนจะโตขึ้น แต่การเรียนรู้ของลูกยังต้องการการส่งเสริมจากคุณพ่อคุณแม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกน้อยค่ะ 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 11 เดือน

เป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกวัยเข้าโรงเรียนแล้วจะเกิดความขัดแย้งกับเพื่อนๆ ได้เวลาเล่นกัน ซึ่งเป็นโอกาสดีที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ทักษะในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมด้วยเช่นกันค่ะ ส่วนพัฒนาการของลูก ลองดูสิคะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง



ฉลาดเรียนรู้
สามารถนับเลขได้มากกว่า  1-10 แต่รู้ค่าจำนวนเพียง 1-5 เท่านั้น

รู้จักและเข้าใจตำแหน่ง เช่น ข้างหน้า ข้างหลัง ข้างใต้ ข้างบน ข้างนอก ข้างใน

เรียนรู้บทบาททางเพศจากพ่อแม่และจากการเล่น

เรียนรู้กฎกติกาต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเรียนรู้โลกในโรงเรียน



ฉลาดเคลื่อนไหว
กล้ามเนื้อมัดใหญ่พัฒนามากขึ้น สามารถควบคุมระบบการเคลื่อนไหวต่างๆ ของร่างกายได้ดี

วิ่งได้เร็ว เลี้ยวหักมุม และกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้ดี

กระโดดได้ไกลโดยเท้าทั้ง 2 ข้างถึงพื้นพร้อมกัน

ทักษะการทำงานประสานกันของมือและตามากขึ้นจึงชอบปั้น วาดภาพระบายสี



ฉลาดสื่อสาร
สามารถสอนให้ลูกเรียนรู้สระง่ายๆ เช่น สระอะ สระอา แล้วนำมาเล่นเกมผสมคำกับลูก ช่วยต่อยอดการเรียนรู้จากโรงเรียนให้ลูกได้

เด็กที่มีพัฒนาการทางภาษาดีมักช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางความคิดประเภทต่างๆ รวมทั้งทางภาษาและอารมณ์ด้วย

มีพัฒนาการทางภาษาทั้งการใช้ภาษาและการเข้าใจภาษามากขึ้น สามารถพูดและเล่าเรื่องราวของสิ่งต่างๆ ที่พบเจอให้คนอื่นรู้และเข้าใจได้



ฉลาดด้านอารมณ์
รับรู้อารมณ์ทั้งของตนเองและคนอื่นได้ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะสอนให้ลูกเห็นว่าการรู้จักเป็นห่วงและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและสมควรทำ

สอนให้เด็กรู้จักใจเขาใจเรา รู้จักใส่ใจ ในความรู้สึกของคนอื่นรอบข้าง รวมทั้งรู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของตนเองอย่างเหมาะสม เพราะหากลูกเห็นคุณพ่อคุณแม่จัดการด้วยวิธีประนีประนอม ไม่ใช้ความรุนแรงใส่กัน เขาก็จะจำวิธีที่เห็นไปใช้กับเพื่อนที่โรงเรียน เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ลูกก็รู้วิธีจัดการกับปัญหาได้อย่างเหมาะสม

เริ่มเล่นเป็นกลุ่ม ซึ่งช่วยให้ลูกเรียนรู้บทบาทการเป็นผู้นำผู้ตามได้มากขึ้น



การเปิดโอกาสให้ลูกเล่นอย่างอิสระจะช่วยส่งเสริมอัจฉริยะรอบด้านให้ลูกได้อย่างดีค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 10 เดือน

ลูกวัยนี้ชอบงานปั้นๆ วาดๆ ซึ่งต้องอาศัยทักษะการทำงานประสานกันของมือและตาที่พัฒนามากขึ้นตามวัย ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระโดยไม่ไปกำหนดหรือออกคำสั่งว่าต้องทำอะไร เป็นการกระตุ้นให้ลูกคิดเอง หาวิธีลองทำเอง หาวิธีแก้ปัญหาที่พบด้วยตัวเอง เพื่อเขาจะได้เรียนรู้ค่ะ และลองมาดูสิคะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง



ฉลาดเรียนรู้
เด็กวัยนี้จะสามารถเข้าใจและอธิบายเหตุและผลง่ายๆ ของเรื่องราวต่างๆได้แล้ว เขารู้ว่าถ้าเหตุเป็นอย่างนี้ ผลจะเป็นอย่างไร  

ตอบโจทย์ที่มีเงื่อนไขและสถานการณ์ได้  เช่น  ถ้า..หิว จะทำอย่างไร หรือถ้า...เดินไปไหนไกลๆ แล้วเหนื่อยจะทำอย่างไร

สามารถจำแนกหรือจัดกลุ่มสิ่งของตามประเภท เช่น สี หรือรูปทรงทีละอย่างได้

เข้าใจคำบอกตำแหน่ง เช่น ข้างใต้ ข้างบน ข้างนอก ข้างใน  ข้างหน้า ข้างหลัง

เรียนรู้กฎกติกามารยาท



ฉลาดเคลื่อนไหว
กล้ามเนื้อมัดใหญ่พัฒนามากขึ้น สามารถควบคุมระบบต่างๆ ของร่างกายได้ดี

วิ่งได้เร็ว เลี้ยวหักมุม และกระโดดข้ามได้ดี

กระโดดลงสู่พื้นด้วยเท้าทั้ง 2 ข้างได้อย่างคล่องแคล่วกว่าเดิม

เขียนตัวหนังสือได้ดีขึ้น โย้เย้น้อยลง

ทักษะการทำงานประสานกันของมือและตามากขึ้นจึงชอบงานปั้นๆ วาดๆ



ฉลาดสื่อสาร
สามารถสื่อสารได้เก่งขึ้น มีคำศัพท์ใหม่ๆ มาให้คุณพ่อคุณแม่แปลกใจ

หากที่ผ่านมาลูกจดจำพยัญชนะต่างๆ ได้ดีแล้วคุณแม่สามารถสอนให้ลูกเรียนรู้สระง่ายๆ เช่น สระอะ สระอา แล้วนำมาเล่นเกมผสมคำกับลูกจะช่วยต่อยอดการเรียนรู้จากโรงเรียนให้ลูกได้

หนังสือยังเป็นสื่อที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ทั้งทักษะต่างๆ อย่างรอบด้าน การพาลูกไปร้านหนังสือบ่อยๆ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกรักการอ่านได้ไม่มากขึ้นค่ะ



ฉลาดอารมณ์
สามารถบอกความต้องการ และแสดงความรู้สึกของตัวเองได้มากขึ้น ตามสถานการณ์และสิ่งแวดล้อม เช่น การขอครูเข้าห้องน้ำ หรือสามารถบอกครูได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย

บอกความรู้สึกต่างๆ ได้ดี

เวลาที่มีอารมณ์โกรธ เกรี้ยวกราด ควรสอนให้ลูกสงบด้วยการกอดและบอกเหตุผลให้ลูกรู้ว่าการที่เราไม่พอใจไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยการส่งเสียดัง หรือด่าว่าคนอื่น



ที่สำคัญ การเป็นแบบอย่างที่ดีของเราในการแสดงออกอย่างเหมาะสม ในสถานการณ์ต่างๆ จะเป็นการสอนที่ทรงพลังยิ่งกว่าคำพูดค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 8 เดือน

อยากให้ลูกเติบโตเป็นแบบไหนพ่อแม่ต้องเสริมสร้างทักษะนั้นให้ลูก เช่น ถ้าอยากให้ลูกมีทักษะการแก้ปัญหา  เราก็ต้องฝึกให้ลูกมีประสบการณ์ในการคิดแก้ปัญหาด้วยตัวเองค่ะ...ส่วนพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้จะเป็นอย่างไรบ้างไปดูกันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
ชอบเป็นนักสังเกตการณ์  โดยเฉพาะเรื่องที่เขาสนใจและมีส่วนเกี่ยวข้องในสถานการณ์นั้นๆ

จำชื่อเพื่อนที่โรงเรียนได้มากขึ้น เมื่อคุณครูถามว่าวันนี้ใครขาดเรียนเขาจะจำได้

ความคิดเริ่มซับซ้อนขึ้นมาอีกนิด เห็นได้จากการที่เขารู้จักวางแผนการไว้ในใจ เช่น จะเล่นอะไร อย่างไร

เข้าใจเรื่องเวลา เช่น คำว่าพรุ่งนี้ว่าหมายถึงอะไร



ฉลาดเคลื่อนไหว
เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วจึงชอบที่จะเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างโลดโผน เช่น แกว่งชิงช้าแรงๆ การปีนป่ายโครงเหล็ก ห้อยโหนโยนตัว มุดช่องอย่างรวดเร็วจนทำเอาผู้ใหญ่หวาดเสียวได้ จึงต้องคอยระมัดระวังอุบัติเหตุขณะที่ลูกเล่น

กล้ามเนื้อมัดเล็กดีขึ้นตามลำดับ นอกจากการฝึกเขียนหนังสือทุกวัน คุณแม่ควรสนับสนุนให้ลูกได้เล่นปั้นดินน้ำมัน ปั้นแป้งโดว์ เพื่อให้กล้ามเนื้อมือแข็งแรงด้วย



ฉลาดสื่อสาร
มีพัฒนาการทางภาษาดีขึ้นตามลำดับ มีความสามารถในการคิดคำที่เป็นของตัวเอง และคำที่คิดจะมีความหลากหลายมากขึ้น  

ชอบพูดจาเล่นคำสนุกๆ  และยังคงชอบฟังนิทานอยู่

คุณแม่สามารถหัดให้ลูกอ่านหนังสือได้ โดยอาจจะเลือกบางคำที่ง่ายๆ และสอดคล้องกับการเรียนในชั้นเรียน เช่น กา มา หา จะช่วยให้ลูกอ่านได้เร็วขึ้น

การใช้คำของลูกวัยนี้ ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเพื่อน บางครั้งอาจเป็นคำหยาบ หรือไม่เหมาะสม คุณแม่ควรแก้ไขให้ถูกต้องและบอกเหตุผลว่าทำไม่ถึงไม่ควรพูดคำนั้น



ฉลาดด้านอารมณ์
วัยนี้จะชอบการสัมผัสสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าการทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ เพื่อนใหม่

ชอบที่จะมีของเล่นใหม่ๆ เสื้อผ้า รวมถึงรูปแบบการเล่นใหม่ๆ

อารมณ์ของลูกมีความหลากหลาย ในบางครั้งอารมณ์อาจไม่ค่อยหนักแน่นมั่นคง ดื้อในบ้างครั้ง ไม่ยอมใครง่ายๆ ในบางคราว พ่อแม่ควรสอนลูกด้วยอารมณ์ที่มั่นคงหนักแน่น

ชอบคุยและเล่นกับเพื่อนและผู้ใหญ่ที่เขาคุ้นเคย



การเรียนรู้ของลูกยังเกิดขึ้นทุกวัน และพ่อแม่ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 7 เดือน

ลูกยังคงใช้พลังงานไปกับการวิ่งเล่นซุกซน ปรับตัวในการเล่นกับคนอื่น และเรียนรู้มารยาทสังคมอย่างต่อเนื่อง หากเราส่งเสริมให้ลูกได้เล่นอย่างสร้างสรรค์ เช่น เล่นกีฬา ไปเที่ยวตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ลูกก็จะพัฒนาการเรียนรู้ได้มากขึ้น  ลองดูสิคะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง



ฉลาดเรียนรู้
สนุกกับการใช้จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ในกิจกรรมต่างๆ

มีระบบการคิดที่หลากหลายขึ้น มีการเชื่อมโยงไปสู่เรื่องรอบตัวมากขึ้น

พูดเป็นเรื่องราว เชื่อมโยงสิ่งต่างๆ กับตนเอง

ชอบตั้งคำถามเป็นประโยคที่มีความหมายมากขึ้น

สามารถเล่าเรื่องราวที่เป็นประสบการณ์ของตัวเองได้ดี

จำสีต่างๆ ได้ถูกต้อง จับคู่สิ่งของได้

ชอบเล่นวาดภาพระบายสี ดินน้ำมัน ต่อภาพ ต่อเลโก้ ฯลฯ



ฉลาดเคลื่อนไหว
การเคลื่อนไหวพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หากได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม ด้วยการให้ลูกได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือได้เล่นกีฬาต่างๆ ที่เหมาะสมกับวัย ก็จะช่วยให้การเคลื่อนไหวทำได้ดียิ่งขึ้น

ทรงตัวได้ดีขึ้น

ชอบเล่นโลดโผน กระโดด ตีลังกา (ถ้ามีคนสอน)

เลี้ยงลูกบอล หรือใช้แขนเหวี่ยงของจนพ้นศีรษะได้



ฉลาดสื่อสาร
มีความสามารถในการคิดคำใหม่ๆ ที่เป็นของตัวเอง

พัฒนาการทางภาษาดีขึ้นมากจากการเรียนรู้ในชีวิตประจำวันและการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะการเล่นบทบาทสมมติ เล่นเลียนแบบต่างๆ เช่น เล่นเป็นพ่อแม่ คุณครู

พูดจาเล่นคำ และหัวเราะสนุกกับคำต่างๆ



ฉลาดด้านอารมณ์
ชอบเล่นเป็นกลุ่มโดยไม่แยกว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย เรียนรู้สังคม โดยใช้เหตุผล ความคิด และจินตนาการ

มีความหลากหลายทางอารมณ์  บางครั้งอารมณ์อาจไม่ค่อยหนักแน่นมั่นคง ดื้อและไม่ยอมใครง่ายๆ ได้

ลูกเริ่มผูกพันกับเพื่อนและผู้ใหญ่ที่เขาคุ้นเคย

บางครั้งก็อยู่ในโลกของจินตนาการ การเล่นกับเพื่อนอาจมีทะเลาะกันได้แต่ไม่นานก็กลับมาเล่นกันอีกได้

เริ่มรู้จักให้ความร่วมมือในการทำงานเป็นกลุ่ม

   

คุณแม่ควรเน้นอาหารที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายและสมองของลูก  นมยังคงเป็นอาหารเสริมที่ดีสำหรับลูกวัยนี้ อย่าลืมเสริมด้วยเอนฟาโกร เอพลัส สูตร 4 เพื่อ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 6 เดือน

เด็กแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างหลากหลาย เพียงแต่เราต้องสังเกตและค้นให้เจอว่า ลูกมีความสามารถด้านใดที่โดดเด่น แล้วต่อยอดการเรียนรู้ให้ลูกได้ตรงจุดอย่างเหมาะสมค่ะ  ลองดูสิคะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง



ฉลาดเรียนรู้
เด็กวัยนี้แสวงหาคำตอบด้วยวิธีการที่หลากหลาย จากการตั้งคำถามแล้วหาคำตอบโดยเชื่อมโยงข้อมูลความรู้ และทักษะต่างๆ ในชีวิตประจำวัน  ขณะเดียวกันก็มีความเข้าใจเหตุผลต่างๆ เพิ่มเติมจากกิจกรรมที่ทำมากขึ้น

มีการเรียนรู้จากการลองผิดลองถูก  จึงควรส่งเสริมให้ลูกทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยความสามารถของเขาเอง การช่วยให้ลูกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้สำเร็จทำได้โดยการฝึกให้ลูกทำสิ่งนั้นบ่อยๆ อย่างเป็นขั้นตอน



ฉลาดเคลื่อนไหว
สมองส่วนซีรีบรัม (cerebellum) ที่ควบคุมการทรงตัวทำงานอย่างแข็งขัน ร่างกายเด็กวัยนี้จึงแข็งแรงและเติบโต

มีทักษะด้านการเคลื่อนไหวที่ดี เดินได้เก่ง วิ่งได้เร็วและมั่นคง

สามารถกระโดดไปด้านข้างซ้าย-ขวา และถอยหลังได้โดยเท้าทั้งสองข้างไปพร้อมกันได้อย่างชำนาญ สามารถกระโดดขาเดียวได้ และกระโดดข้ามวัตถุสูง 12-15 เซนติเมตร  โดยลงสู่พื้นด้วยเท้าทั้ง 2 ข้างได้ดี

กล้ามเนื้อมัดเล็กทำงานได้ดีขึ้นจากการที่ลูกได้ฝึกฝนการเขียนหนังสือทุกวัน



ฉลาดสื่อสาร
วัยนี้ช่างพูดช่างคุย แต่ควรสอนให้ลูกเป็นผู้ฟังที่ดีด้วย เพราะการที่ลูกมีสมาธิในการฟังจะช่วยให้เข้าใจคำสั่งของคุณครูเมื่ออยู่ที่โรงเรียน อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากให้ลูกฟัง พ่อแม่จะต้องฟังลูกก่อน และฟังอย่างตั้งใจ (สบตา พยักหน้ารับรู้) นอกจากฟังแล้วต้องจับใจความที่ลูกพูดแล้วตอบสนองในสิ่งที่ลูกต้องการอย่างเหมาะสมด้วย

ช่วงนี้ลูกจะจำคำศัพท์ได้มากขึ้น  การอ่านหนังสือให้ลูกฟังอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้คำศัพท์มากขึ้น  



ฉลาดด้านอารมณ์
ตั้งแต่เข้าโรงเรียนมาลูกจะมีความเข้าใจและรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่นมากขึ้นตามลำดับ และพร้อมที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจ หรือแสดงน้ำใจกับคนรอบข้างมากขึ้น

การแสดงอารมณ์ทางอารมณ์ชัดเจนมากขึ้นเช่น เมื่อพอใจก็จะยิ้มกว้างบอกให้รู้ว่าหนูชอบ แสดงอารมณ์สนุกสนานจากกิจกรรมต่างๆ ที่ชื่นชอบ พร้อมกับเรียกร้องที่จะเล่นซ้ำอีก

ชอบเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่ม

จัดการความเครียดความโกรธ และอารมณ์หงุดหงิดได้ดีขึ้น อย่างที่เรียกว่า เด็กโกรธง่ายหายเร็ว

มักเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือพอใจ เวลาอยู่ที่บ้านหรือที่โรงเรียนจะรู้บทบาทหน้าที่ของตัวเอง ว่าควรต้องทำอะไร

ยังต้องการคำชมเพื่อเป็นกำลังใจในการทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ



คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกทำกิจกรรมต่างๆ ตามวัย การอ่านหนังสือ การทำงานศิลปะ  การเล่นกีฬา การกเล่นดนตรีหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ส่งเสริมศักยภาพสมองและทักษะด้านต่างๆ  ของร่างกายจิตใจ และจินตนาการของเด็ก และควรเป็นกิจกรรมที่เกิดจากความสมัครใจของลูกด้วยนะคะ 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 5 เดือน

ร่างกายและสมองที่พัฒนาขึ้นทำให้ลูกเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวได้ดี และสามารถฝึกฝนทักษะต่างๆ ได้ก้าวหน้ามากขึ้น จนคุณแม่อดภูมิใจในตัวลูกไม่ได้ทีเดียว มาดูกันค่ะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง



ฉลาดเรียนรู้
ถึงจะเป็นวัยซนแต่ก็มีเหตุมีผล แต่เป็นเหตุผลแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ความสามารถในการเข้าใจเหตุผลนี้จะดีขึ้นตามลำดับ หากคุณแม่คอยชี้แนะ

ลูกสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจอารมณ์ต่างๆ ที่ซับซ้อนได้มากขึ้น

มีสมาธิที่ยาวขึ้น มีความจำดีขึ้น และสามารถท่องจำได้แม่นยำ หากได้รับการส่งเสริมอย่างเหมาะสมด้วยกิจกรรม การอ่าน การเล่นดนตรี กีฬา หรืองานศิลปะ รวมทั้งการเลือกรายการโทรทัศน์ที่เหมาะสมและจำกัดเวลาในการดูโทรทัศน์ของลูก



ฉลาดเคลื่อนไหว
ร่างกายที่เติบโตตามวัย รวมกับการได้เคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ของลูกแข็งแรง ส่งผลให้ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างกระฉับกระเฉงมากขึ้น

สามารถวิ่งซิกแซก หยุด และกลับตัว และวิ่งรอบวงกลมได้

สามารถเดินต่อเท้าไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงโดยไม่ต้องกางแขน

กระโดดไปด้านข้างซ้าย-ขวา และถอยหลังได้โดยเท้าทั้งสองข้างไปพร้อมกันได้

กล้ามเนื้อมัดเล็กพร้อมสำหรับการเขียนหนังสือมากขึ้น

การทำงานประสานกันระหว่างมือและตาดีขึ้น สังเกตได้จากการร้อยลูกปัดหรือร้อยเชือกได้เร็วและคล่องแคล่วกว่าช่วงวัยก่อนๆ



ฉลาดสื่อสาร
ลูกสามารถเรียนรู้และจดจำคำศัพท์ รวมทั้งภาษาใหม่ๆ ในการพูดได้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คือสามารถรู้ความหมายนั้นๆ เช่น สีขาว สีดำ สีแดง เล็ก ใหญ่ สั้น ยาว

พัฒนาการทางภาษามีมากจนสามารถรู้และเข้าใจความแตกต่างของคำในประโยคที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนได้ เช่น “แม่ชอบสีขาว” “แม่ชอบสีเทา” ฯลฯ

มีพัฒนาการทางภาษาทั้งการใช้ภาษาและการเข้าใจภาษามากขึ้น สามารถพูดและเล่าเรื่องราวของสิ่งต่างๆ ที่พบเจอให้คนอื่นรู้และเข้าใจได้



ฉลาดด้านอารมณ์
สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ ได้แก่ สมองส่วนหน้าหรือเซรีบรัม (cerebrum) ของลูกกำลังพัฒนาอย่าต่อเนื่อง ยิ่งลูกมีประสบการณ์รับรู้อารมณ์มากขึ้นก็จะทำให้เขาเข้าใจอารมณ์แต่ละแบบได้มากขึ้น

เด็กที่มีต้นแบบการแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสม ก็จะทำให้เขามีทักษะด้านนี้ดีและทำให้สามารถเข้าใจอารมณ์ที่ซับซ้อนได้มากขึ้น

หากลูกการแสดงออกทางอารมณ์ด้วยความรุนแรง  เช่น ทำร้ายร่างกาย หรือทำลายข้าวของ เมื่อไม่ได้ดั่งใจ  ต้องรีบแก้ไข้ ซึ่งไม่ใช่การใช้ความรุนแรง เช่น คำพูดดุด่าว่ากล่าว แต่ควรใช้อ้อมกอดของเราและน้ำเสียงที่นุ่มนวลปลอบโยน และบอกให้ลูกรู้ว่า “รู้สึกโกรธได้ แต่ไม่ควรทำร้ายคนอื่น”

หากได้รับสอนให้รู้จักให้อภัยและขอโทษเมื่อทำความผิด ถึงวัยนี้ลูกจะทำได้



การส่งเสริมทักษะต่างๆ ให้ลูกวัยนี้สามารถทำได้ไม่ยาก เพราะสมองของลูกน้อยกำลังพัฒนาและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ เพื่อพัฒนาสู่อัจฉริยะรอบด้านนั่นเองค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 4 เดือน

ลูกวัยนี้ชอบเล่นเป็นกลุ่มและชอบที่จะอยู่กับเพื่อนๆ มากกว่าเล่นกับพ่อแม่เหมือนก่อน การสนับสนุนให้ลูกได้เล่นกับเพื่อนจะช่วยให้ลูกมีประสบการณ์การเรียนรู้และมีทักษะด้านอารมณ์และสังคม เข้าใจกฎกติกามากขึ้น มาดูกันค่ะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง          

ฉลาดการเรียนรู้
เด็กวัยนี้จะมีวิธีการแสวงหาคำตอบในสิ่งที่อยากรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ทั้งการตั้งคำถาม พร้อมรอคอยคำตอบอย่างตั้งใจ เพื่อให้คลายจากความสงสัย ซึ่งการตั้งคำถามนี้จะเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน เพราะสมองมีการเชื่อมโยงความรู้กับสิ่งที่พบในชีวิตประจำวันได้

มีจินตนาการล้นเหลือ เมื่อคุณแม่ชวนลูกเล่นสนุกด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น ต่อบล็อกไม้ วาดรูประบายสี เจ้าตัวน้อยจะมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสิ่งต่างๆ จนคุณแม่ประหลาดใจในความสามารถของลูก



ฉลาดเคลื่อนไหว
กล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่พัฒนาได้ดีสมวัย จึงชอบกระโดดโลดเต้น มีทักษะด้านการเคลื่อนไหวที่ดี เช่น กระต่ายขาเดียว (กระโดดขาเดียว) ได้อย่างต่อเนื่องและนานขึ้น

เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว มีการทรงตัวได้ดี หากคุณแม่อยากรู้ว่าลูกมีกำลังขาแข็งแรงเพียงใด รองให้ลูกยืนขาเดียวแล้วจับเวลาดู

หากลูกได้เล่นกีฬาที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อขาอย่างต่อเนื่อง กล้ามเนื้อก็จะแข็งแรงมากขึ้น

ลูกกระโดดขาเดียวอยู่กับที่และกระโดดขาเดียวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้บ้าง แต่ก็ยังมีล้มอยู่บ้าง



ฉลาดสื่อสาร
สามารถเล่นและพูดโต้ตอบได้ดี เวลาที่คุณแม่หรือคนใกล้ชิดแนะนำให้ทำอะไรเขาจะเข้าใจและยอมทำตามคำแนะนำนั้นๆ

เริ่มนำภาษาเหมือนกับผู้ใหญ่มาใช้สื่อสารกับพ่อแม่ เพื่อน  เช่น ชวนเพื่อนมาเล่นด้วย พูดคุยทำความรู้จักซึ่งกันและกัน



ฉลาดด้านอารมณ์
การแสดงออกด้านอารมณ์ดีขึ้น สามารถบอกความรู้สึกหรือความต้องการให้ผู้อื่นรับรู้ได้ดี

แสดงออกความสนใจ ชื่นชมกับความสำเร็จของเพื่อนในการทำกิจกรรมต่างๆ ขณะที่ตัวเองก็มีความมานะอดทนเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ให้สำเร็จ

รู้สึกผูกพันกับสถานที่และสิ่งแวดลอมที่เคยไป ด้วยการเรียกร้องให้พ่อแม่พาไปอีก

เมื่อเห็นเพื่อนหรือคนอื่นต้องการความช่วยเหลือลูกจะแสดงน้ำใจและให้ความช่วยเหลือด้วยดี

แม้จะเป็นตัวของตัวเองสูงและรู้สึกเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ มากขึ้น แต่ก็ยังเป็นเด็กน่ารักของคุณพ่อคุณแม่อยู่



บทบาทของคุณพ่อคุณแม่หากลูกมีปัญหากับเพื่อนที่เล่นด้วยกัน ก็คือควรปล่อยให้ลูกได้แก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน เพื่อให้เขาได้เรียนรู้วธีแก้ปัญหา หากเขาแก้ไขไม่ได้ พ่อแม่จึงค่อยเข้าไปช่วยเหลือค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 3 เดือน

เด็กกับการเล่นเป็นของคู่กัน   การเล่นช่วยให้ลูกได้คิด จินตนาการ ฝึกกล้ามเนื้อ การทำงานประสานกันระหว่างมือและสายตา เวลาที่เด็กเล่นเป็นกลุ่มยังได้เรียนรู้เรื่องสังคม รู้จักกฎระเบียบกติกา และเรียนรู้เรื่องการอดทนรอคอยด้วย จึงควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นอย่างเต็มที่ มาดูกันค่ะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง

 ฉลาดเรียนรู้
ลูกเรียนรู้ที่จะรอคอยอย่างสงบได้นานขึ้น

เมื่ออยู่ที่โรงเรียน จะสามารถฟังและเข้าใจคำสั่งของคุณครู และพร้อมเรียนรู้คำสั่งใหม่และกติกาใหม่ๆ อย่างตั้งใจ

มีสมาธิในการเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดี



ฉลาดเคลื่อนไหว
ทักษะการใช้มือของลูกพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน สามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ จากมือน้อยๆ ได้มากมาย เช่น ต่อบล็อกเป็นรูปทรงต่างๆ  วาดรูประบายสี ต่อจิ๊กซอว์

กล้ามเนื้อแขนขาแข็งแรงมากขึ้น เวลาที่ลูกวิ่งจะเห็นว่าขาของลูกสามารถวิ่งได้ตรงอย่างมั่นคง เวลาที่จะหยุดก็หยุดได้ทันที ซึ่งคุณแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกเล่นออกกำลังกายที่บ้านได้ โดยอาจจะใช้ชอล์กหรือเทปกาวขีดเป็นเส้นตรง และให้ลูกเดินตามเส้นตรงนั้น



ฉลาดสื่อสาร
ก่อนที่จะสื่อสารได้คล่อง สมองของลูกได้สะสมคำศัพท์ไว้มากมายจากการส่งเสริมของคุณพ่อคุณแม่ คุณครู ผ่านกิจวัตรประจำวัน

คุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะด้านการสื่อสารของลูกได้เวลาพาลูกไปสถานที่ใหม่ๆ หรือพบเจอกับสิ่งใหม่ บอกให้ลูกรู้ว่าสิ่งนั้นเรียกว่าอะไร ฯลฯ การทำซ้ำๆ บ่อยๆ จะช่วยให้ลูกเข้าใจความหมายของคำๆ นั้นมากขึ้น

การให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ช่วงแรกอาจเป็นการเรียนรู้ซ้ำๆ คำเดิมๆ พร้อมเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตประจำวัน วัยนี้เป็นช่วงที่จะจดจำคำศัพท์ต่างๆ ได้มากขึ้นประมาณ 300-1,000 คำ



ฉลาดด้านอารมณ์
กิจกรรมส่วนใหญ่คือการเล่น และเมื่อเขาเล่นกับเพื่อนๆ ก็อาจจะต้องเผชิญกับพฤติกรรมและอารมณ์ของเพื่อนๆ ที่อาจทำให้เกิดการขัดแข้งกัน เช่น โกรธ เสียใจ แต่ขณะเดียวกันก็อาจมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น

ลูกควรจะได้เรียนรู้เรื่องวิธีการควบคุมอารมณ์ของตัวเองหรือยอมรับกับอารมณ์ของเพื่อนที่เกิดขึ้น ดังนั้น การสอนให้ลูกแสดงอารมณ์อย่างเหมาะสม ไม่แสดงอารมณ์หรือวิตกกังวลจนเกินเหตุ ให้ลูกหยุดหรือสงบสติอารมณ์เมื่อลูกแสดงอารมณ์มากเกินไป เป็นสิ่งสำคัญ



คุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะด้านต่างๆ ให้ลูกโดยการสอดแทรกเข้าไปในกิจวัตรประจำวันไม่ว่าจะเป็น การอ่านหนังสือ การเล่นกีฬา การปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง  สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่คือแบบอย่างที่ดีที่สุดเพราะลูกจะเรียนรู้และเรียนแบบทุกพฤติกรรมจากพ่อแม่ค่ะ 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 2 เดือน

ลูกวัยนี้มีพลังเหลือเฟือ จะวิ่งเล่น กระโดด ปีนป่ายได้ทั้งวันโดยไม่เหน็ดเหนื่อย จะหยุดก็เมื่อหมดแรงได้เวลาเข้านอน ส่วนความสามารถอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นตามวัย และเรียนรู้เรื่องกฎระเบียบต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย  มาดูกันค่ะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง

                                                                                       

ฉลาดเรียนรู้
ลูกรับรู้ความเหมือนและความต่างของสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่น เด็กผู้หญิงจะมีสรีระร่างกายเหมือนแม่ ส่วนเด็กผู้ชายจะเหมือนคุณพ่อ  การเรียนรู้เรื่องเหตุผลก็ทำได้ดีทีเดียว

เข้าใจเหตุผลง่ายๆ เช่น เมื่ออยู่ในสนามเด็กเล่น ต้องต่อคิวเมื่อจะเล่นของเล่น  มีการเชื่อมโยงเหตุผลต่างๆ ในชีวิตประจำวันมากขึ้น

ยังสนุกกับการตั้งคำถามกับเรื่องใกล้ตัว



ฉลาดเคลื่อนไหว
ร่างกายมีการพัฒนามากขึ้นตามลำดับ การทำงานของกล้ามเนื้อและสายตาสัมพันธ์กัน ลูกวัยนี้จะสามารถเดินตามเส้นตรงได้นานขึ้น การส่งเสริมให้ลูกทำกิจกรรมหรือพาไปเล่นที่สนามเด็กเล่นบ่อยๆ ก็จะช่วยให้ทักษะเหล่านี้พัฒนาได้ดียิ่งๆ ขึ้น

ชวนลูกเล่นสนุกและฝึกทักษะการเคลื่อนไหวโดยให้ลูกเดินก้าวเท้าไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง สลับกับการวิ่ง แล้วหยุด แล้วเดินใหม่ ในระหว่างทางอาจมีสิ่งกีดขวางให้ลูกหลบหลีก



ฉลาดสื่อสาร
ลูกวัยนี้จะมีคลังคำศัพท์มากขึ้นในสมองตามการใช้ภาษาของคนในครอบครัวและโรงเรียน

การให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ช่วงแรกอาจเป็นการเรียนรู้ซ้ำๆ คำเดิมๆ พร้อมเชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตประจำวัน

เป็นช่วงที่จะจดจำคำศัพท์ต่างๆ ได้มากขึ้นประมาณ 300-1,000 คำ เรียนรู้และเข้าใจความหมายได้เพิ่มขึ้น



ฉลาดด้านอารมณ์
หากต้องอยู่ในสถานการณ์หรือเหตุที่ทำให้รู้สึกไม่พึงพอใจ จะควบคุมตัวเองโดยการนิ่ง ไม่ร้องไห้หรือโวยวายออกมา

เมื่อไม่สามารถทำกิจกรรมที่ยากๆ ได้ จะแสดงออกโดยการนิ่งและมองหาตัวช่วย แทนการโวยวาย

เมื่อรู้สึกสนุกและมีความสุขจะแสดงอารมณ์อย่างเปิดเผย

เวลาที่ใครแสดงความรักหรือทำดีด้วย จะแสดงความรักตอบด้วยการกอด หอมแก้ม ฯลฯ



เพราะความสามารถของลูกเพิ่มขึ้น  คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมทักษะต่างๆ ให้กับลูก  เช่น สอนเรื่องกฎระเบียบต่างๆ ของสังคม  และการไปเข้าโรงเรียนทำให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องนี้อย่างจริงจัง 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี 1 เดือน

พัฒนาการลูกรุดหน้า เป็นเด็กช่างสงสัยและเต็มไปด้วยคำถาม โดยจะคอยเฝ้าดู สังเกต และเลียนแบบ  พร้อมที่จะเรียนรู้และสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ เริ่มรู้จักเหตุผลบ้างแล้ว ต้องการเป็นตัวของตัวเองและอยากรู้อยากเห็น  คุณพ่อคุณแม่จึงควรตอบสนองลูกด้วยการตอบคำถามอย่างเข้าใจด้วย มาดูกันค่ะว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกวัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ฉลาดเรียนรู้
เมื่อพบเจอปัญหาหรืออุปสรรค ลูกจะปรับตัวและลองผิดลองถูกด้วยวิธีต่างๆ อย่างสอดคล้องกับวัย

มีความเข้าใจในปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาในรูปแบบต่างๆ หากมีการฝึกฝนทักษะนี้บ่อยๆ จะทำให้ทักษะการเรียนรู้ของลูกรุดหน้า

มีความอยากรู้อยากเห็น หยิบ จับ สัมผัสกับสิ่งแปลกใหม่ที่ได้ทำกิจกรรม และมีความคุ้นชินกับสถานการณ์และบุคคลที่พบเจอ กล้าถามและกล้าพูดคุยมากขึ้น

มักตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย ชอบคุยกับคุณครู ด้วยท่าทีที่คุ้นเคยมากขึ้น และมักมีคำถามใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ



ฉลาดเคลื่อนไหว
ลูกแข็งแรงมากขึ้น เรียกว่าเดินคล่อง วิ่งเร็ว และปีนป่ายได้อย่างคล่องแคล่ว

การเคลื่อนไหวจากการใช้กล้ามเนื้อจะเป็นไปอย่างกระฉับกระเฉง

กล้ามเนื้อมัดใหญ่พัฒนาเร็วกว่ากล้ามเนื้อเล็กที่ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของมือ  ควรให้ลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นและเพียงพอ โดยเฉลี่ยเด็กวัยนี้ต้องการอาหารประมาณ 1,700 กิโลแคลอรีต่อวัน



ฉลาดสื่อสาร
ทักษะด้านการสื่อสารของลูกน้อยวัยนี้เติบโตตามวัย จะบอกความต้องการและแสดงความรู้สึกของตัวเองได้มากขึ้น ตามสถานการณ์และสิ่งแวดล้อม เช่น การเข้าห้องน้ำ หรือการขอดื่มน้ำ

เมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ หรือเกิดอุบัติเหตุจะสามารถบอกความรู้สึกได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

ขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ได้มากขึ้น



ฉลาดด้านอารมณ์
แม้ลูกจะมีอารมณ์หงุดหงิดในบางครั้ง แต่เขาก็สามารถจัดการกับอารมณ์ได้อย่างสอดคล้องตามวัย

ยิ่งเด็กๆ ได้เรียนรู้ที่จะแสดงออกทางอารมณ์อย่างหลากหลายจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น  จะช่วยให้สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ทำงานได้มีประสิทธิภาพ และส่งผลให้ลูกเรียนรู้ที่จะจัดการอารมณ์อย่างสอดคล้องกับวัย

เข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่น แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครูผู้สอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ด้วยการให้ความช่วยเหลือ ชอบถามความรู้สึกและอารมณ์ของเพื่อนหรือครูผู้สอน



เพื่อส่งเสริมให้สมองเกิดการเรียนรู้และเกิดการทักษะต่างๆ คุณแม่อย่าให้ลูกขาดสารอาหารโดยเฉพาะสารอาหารบำรุงสมองอย่างดีเอชเอ นอกจากนี้ส่งเสริมให้ลูกวัยนี้ได้แสดงอารมณ์ที่หลากหลายแต่ก็อยู่ในขอบเขตและสมดุล คือถ้าลูกมีอารมณ์หรือพฤติกรรมที่แสดงออกเกินไปพ่อแม่ก็ต้องคอยบอกคอยสอนด้วยนะคะ 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 4 ปี

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกได้เรียนรู้ ได้เห็นได้สัมผัสจะเป็นประสบการณ์ที่อยู่กับตัวเขา แม้ว่าวัยนี้เขาอาจจะยังไม่เข้าใจในที่มาที่ไปของเรื่องราวต่างๆ รอบตัวมากนัก แต่เขาสามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่เราสามารถทำได้คือ เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก  มาดูกันว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

ฉลาดเรียนรู้
ลูกวัยนี้จินตนาการเก่งและแสดงออกผ่านการเล่นสมมติ ยิ่งมีเพื่อนเล่นสนุกๆ หลายๆ คน การเล่นบทบาทสมมติก็ยิ่งดูคึกคักกว่าเล่นกับตุ๊กตาเสียอีก

การเล่นด้วยกันของเด็กๆ นอกจากจะเป็นการแบ่งปันคำศัพท์ หรือประสบการณ์ของแต่ละคนแล้ว อารมณ์ความสนุกต่างๆ ยังช่วยให้สมองเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย



ฉลาดเคลื่อนไหว
ความสามารถในการเคลื่อนไหวของลูกเป็นไปด้วยดี จากเดิมที่เคยกระโดดขาเดียวได้ประมาณ 2-3 ก้าว มาเดือนนี้เขาอาจทำได้ 4-6 ก้าวเลยทีเดียว  นอกจากนี้ ยังวิ่งขึ้นบันไดได้อย่างรวดเร็ว หยุดหรือเลี้ยวได้อย่างฉับพลัน

หากลองให้ลูกเดินตามแนวเส้นตรงก็จะสามารถเดินได้ไกลประมาณ 3 เมตร ซึ่งหมายถึงสมาธิและความจดจ่อที่มีมากขึ้นด้วย

ลูกเริ่มเขียนตัวหนังสือได้แล้วจากการฝึกเขียนทุกๆ วัน และสามารถใช้กรรไกรตัดกระดาษได้คล่อง



ฉลาดสื่อสาร
พัฒนาการทางภาษาจะเร็วมาก ลูกจะมีคำศัพท์ใหม่ๆ หรือเรียกชื่อสิ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนได้ เด็กบางคนจะคิดคำพูดสร้างท่วงทำนองการพูด และทำเสียงแปลกๆ และชอบใช้คำว่า “สมมติว่า...”

รู้จักและเข้าใจคำศัพท์ เช่น คำบอกตำแหน่ง คำบอกเวลา คำบอกความรู้สึกและความคิดที่เป็นนามธรรมได้ เช่น ดี เหนื่อย หนาว ร้อน อุ่น และรู้จักการปฏิเสธ



ฉลาดด้านอารมณ์
ลูกวัยนี้ยังเล่นกับเพื่อนต่างเพศได้ไม่นานนัก และยังมีโอกาสทะเลาะกับเพื่อนได้บ่อยๆ เหมือนกัน แต่ไม่นานก็ดีกัน ฉะนั้นผู้ใหญ่อย่างเราคอยเฝ้าสังเกตการณ์เฉยๆ จะดีกว่า หากเห็นว่าการทะเลาะกันนั้นไม่หนักหนาเกินกว่าที่เด็กจะแก้ปัญหากันเองได้

ลูกวัยนี้จะแยกตัวจากแม่และหันไปให้ความสำคัญกับพ่อมากขึ้น เพราะเขารู้สึกว่าพ่อเล่นสนุก และโลดโผนกว่าแม่  

พัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกจะก้าวหน้าสู่อัจฉริยะรอบด้านเพียงใด ขึ้นอยู่กับโอกาสในการเรียนรู้และฝึกฝน ดังนั้นการปล่อยให้ลูกนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์นานๆ นอกจากจะไม่ได้ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการแล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพลูกด้วยค่ะ 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 11 เดือน

ลูกยิ่งโตก็ยิ่งรู้ความรู้ภาษามากขึ้นและพร้อมสำหรับการเรียนรู้มากขึ้นเช่นกัน คุณแม่จึงควรหาโอกาสให้ลูกได้สัมผัสเรียนรู้จากของจริง สถานที่จริง ตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ให้ลูกได้มีประสบการณ์สนุกๆ จากการเคลื่อนไหวบ่อยๆ เพื่อเสริมสร้างเซลล์สมองให้มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น มาดูกันว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกเป็นอย่างไรบ้าง

ฉลาดเรียนรู้
วัยนี้จินตนาการสร้างสรรค์กว้างไกลมาก   ยิ่งลูกได้รับการส่งเสริมอย่างรอบด้านผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงมากเท่าไร ลูกก็จะสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาต่อยอดความคิด และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้มาก

คุณแม่สามารถส่งเสริมสมาธิและการเรียนรู้ให้ลูกผ่านกิจกรรมศิลปะ ดนตรี และการเล่นกีฬา  โดยอาจลองพาลูกไปเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ แล้วสังเกตว่า เขามีความสนใจ ถนัด หรือชอบที่จะทำกิจกรรมใด เพื่อส่งเสริมได้ถูกทาง

ลูกวัยนี้จะพัฒนาความเข้าใจเรื่อง “ถูก” “ผิด” มากขึ้น แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่จะตัดสินพฤติกรรมจากผลของการกระทำอยู่ค่ะ  เพราะเขายังไม่เข้าใจเรื่องเจตนา เช่น ลูกคิดว่า เด็กที่ตั้งใจขว้างแก้วให้แตก 1 ใบ ผิดน้อยกว่าเด็กที่ทำแก้วแตก 5 ใบ เพราะอุบัติเหตุ

                                                                 

ฉลาดเคลื่อนไหว
กระดูกและกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เติบโตแข็งแรงขึ้นตามลำดับ และพร้อมสำหรับกิจกรรมเสริมสร้างกล้ามเนื้อ คุณแม่จึงควรส่งเสริมให้ลูกได้ออกกำลังกายบ่อยๆ เช่น ชวนกันไปวิ่งเล่นสวนสาธารณวันหยุด ขี่จักรยาน หรือพาลูกไปเรียนว่ายน้ำ เป็นต้น

ลูกสามารถจับ โยน รับลูกบอลได้แม่นยำขึ้นตามพัฒนาการ และขว้างลูกบอลได้ไกล

สามารถใช้มือตีลูกบอลที่กระเด้งจากพื้น คล้ายๆ การเลี้ยงลูกบอลได้

ปีนป่ายบันไดและเล่นเครื่องเล่นกลางแจ้งได้อย่างคล่องแคล่ว



ฉลาดสื่อสาร
ลูกเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ อยู่ทุกวัน และเรียนรู้ที่จะนำเอาคำศัพท์ต่างๆ มาร้อยเรียงเป็นคำพูดและพูดเป็นประโยคได้ยาวขึ้น และเรียงประโยคได้ถูกต้องมากขึ้น

ลูกวัยนี้เริ่มพูดจามีเหตุมีผลมากขึ้น และใช้ภาษาในการเปิดทางสร้างมิตรภาพกับคนอื่นๆ มากขึ้นด้วย



ฉลาดด้านอารมณ์
ลูกเริ่มอิจฉาเป็นแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการที่ลูกเรียนรู้ที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ไม่เฉพาะเพื่อนแต่รวมถึงพี่กับน้องด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าลูกๆ พยายามจะช่วงชิงความรักจากคุณพ่อคุณแม่

เริ่มเป็นจอมวางแผนและจอมบงการ  สามารถพูดจาหว่านล้อมชักชวนเพื่อนให้มาเล่นด้วยกันได้ พอๆ กับพูดจากีดกันให้เพื่อนที่ตัวเองไม่ชอบเข้ากลุ่ม

การเปิดโอกาสให้ลูกได้มีส่วนร่วมในกฎระเบียบของบ้าน จะทำให้ลูกรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและพร้อมให้ความร่วมมือด้วยดี

         

         ยิ่งลูกเติบโตและเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมมากเท่าไร พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกเรียนรู้จักอารมณ์ตัวเองมากขึ้นเพื่อช่วยให้ลูกสามารถคลี่คลายอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิด ไม่ว่าจะเป็น ความรู้สึกเศร้า ผิดหวัง เสียใจ หรือแม้กระทั่ง รู้สึกอิจฉา อันเนื่องจากความต้องการความรักและการยอมรับจากคนอื่นๆ เพื่อความฉลาดด้านอารมณ์ของเขาในที่สุดค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 10 เดือน

ลูกรับรู้และเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ จากพ่อแม่ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก เรามาดูกันว่าช่วงวัยนี้พัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกเป็นอย่างไรบ้าง

ฉลาดเรียนรู้
ลูกวัยนี้จะมีสมาธิกับการเรียนและเล่นได้นานขึ้นตามลำดับ

สามารถบอกรูปร่าง เช่น กลมๆ เหลี่ยมๆ และขนาดต่างๆ  เช่น เล็กๆ ใหญ่ๆ ได้

สามารถจับคู่สิ่งของต่างๆ ได้ถูกต้องมากขึ้น เช่น รู้ว่า ช้อนต้องคู่กับส้อม ถุงเท้าคู่กับรองเท้า ดอกไม้คู่กับแจกัน เป็นต้น

ลูกเริ่มเข้าใจความหมายของคำว่า “ที่สุด” แล้ว เช่น สั้นที่สุด ยาวที่สุด ใหญ่ที่สุด ฯลฯ

                                                                 

ฉลาดเคลื่อนไหว
ลูกวัยนี้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว และชอบวิ่งเล่น กระโดด ปีนป่าย

สามารถเดินเขย่งปลายเท้าได้ไกลถึง 10 ฟุต

เตะฟุตบอลได้ไกล โยนลูกบอลได้สูง ถีบจักรยานสามล้อได้คล่องแคล่ว

ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดเล็กก็ดีขึ้นมาก สังเกตได้จากการจับดินสอได้อย่างมั่นคงขึ้น ลงน้ำหนักลากเส้นได้ดี และสามารถใช้พู่กันอันใหญ่ป้ายสีเป็นภาพต่างๆ ได้



ฉลาดสื่อสาร
การพูดคำหยาบสำหรับเด็กวัยนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากที่ผ่านมาเขาเคยได้ยินหรืออาจจะได้ยินมาจากเพื่อนแล้วลองนำมาใช้ตาม หากพบว่าลูกพูดคำหยาบอย่าเพิ่งไปดุ แต่ควรแก้ไขโดยอธิบายให้ลูกรู้ถึงเหตุผลว่าคำนั้นไม่เหมาะสมอย่างไร และแนะนำคำอื่นที่เหมาะกว่าให้แก่ลูก

แม้ลูกจะรับรู้และเข้าใจอารมณ์มากขึ้น แต่คุณแม่ต้องไม่ลืมสอนให้ลูกรู้จักคำศัพท์หรือคำพูดที่บอกอารมณ์ความรู้สึกทั้งของตนเองและผู้อื่นด้วย เช่น ถ้าเด็กรู้สึกโกรธ เมื่อถูกแย่งของเล่น ควรสอนให้เด็กเข้าใจว่า อารมณ์ที่เกิดขึ้นคือ อารมณ์โกรธ โดยถามลูกว่า “หนูรู้สึกโกรธที่ถูกแย่งของเล่นใช่มั้ยลูก”



ฉลาดด้านอารมณ์
เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่จะเลือกเล่นและสนิทกับเพื่อนเพศเดียวกัน  โดยเด็กผู้หญิงมักบ่นว่าเด็กผู้ชายเอะอะเสียงดัง เด็กผู้ชายมักว่าเด็กผู้หญิงน่าเบื่อ เล่นด้วยไม่สนุก

การสอนให้ลูกรู้จักประนีประนอม รู้จักเจรจาต่อรองจะช่วยให้ลูกจัดการกับปัญหาความขัดแย้งเมื่อเล่นกับเพื่อนได้ ที่สำคัญ ควรเลี่ยงการลงโทษทางร่างกายไม่ว่าจะลูกจะทำผิดแค่ไหน เพราะนอกจากไม่ช่วยให้พฤติกรรมลูกดีขึ้นแล้วยังเป็นการบ่มเพาะความรุนแรงในจิตใจลูกด้วย

หากเราอยากได้ลูกที่ดี แน่นอนว่าเราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เขาด้วย เพราะแม้ว่าลูกจะเติบโตไปสักเท่าใด เขาก็ไม่เคยละสายตาไปจากเรานับแต่เล็กจนโต

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 9 เดือน

เด็กวัยนี้มักจะเปรียบเทียบตัวเองกับเด็กอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากมีสังคมที่กว้างขึ้นและมีเพื่อนมากขึ้น และเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเก่งไม่เท่าเพื่อน แรงจูงใจในการเรียนรู้อาจลดลง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยเตรียมรับมือกับสถานการณ์ถดถอยทางอารมณ์ของลูกวัยนี้ไว้บ้าง  มาดูกันว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกเป็นอย่างไรบ้าง

ฉลาดเรียนรู้
ลูกยังสนใจและพยายามเลียนแบบกิริยาท่าทางการเดินการนั่ง และการพูดคุยของผู้ใหญ่

สามารถบอกสี  รูปทรงต่างๆ เช่น วงกลม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยมได้ถูกต้อง

ความเข้าใจเรื่องเวลา เมื่อวานนี้ วันนี้ พรุ่งนี้ชัดเจนขึ้น และสับสนในการใช้คำพูดน้อยลง



ฉลาดเคลื่อนไหว
เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น  สามารถวิ่งเตะลูกบอลได้โดยไม่ต้องหยุดเล็ง

เริ่มวิ่งขึ้นบันไดได้บ้างแล้ว

ขี่จักรยานสามล้อได้อย่างรวดเร็ว และสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ดี

ใช้มือข้างที่ถนัดได้ดีขึ้น ทั้งการจับดินสอวาดเส้น เขียนตัวพยัญชนะ และการหยิบจับสิ่งของชิ้นเล็กๆ ได้อย่างแม่นยำ

กล้ามเนื้อนิ้วแข็งแรงขึ้นตามลำดับ สังเกตได้จากลูกใช้กรรไกรตัดกระดาษตามเส้น เปิดฝาขวดน้ำ หมุนลูกบิดประตูได้ดีและเร็วขึ้น



ฉลาดสื่อสาร
มักสงสัยและมีคำถามมากมาย ควรตอบคำถามด้วยคำง่ายๆ สั้นๆ

คุณแม่สามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาให้ลูกได้ด้วยการอ่านหนังสือให้ฟัง โดยใช้หนังสือภาพมาประกอบการเล่าเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น อ่านบทอาขยานสั้นๆ ง่ายๆ จะช่วยให้เด็กเรียนรู้พื้นฐานของระบบเสียงที่เกี่ยวกับการอ่าน  รวมทั้งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องลำดับก่อนหลัง สิ่งที่เป็นนามธรรม ได้แก่ สี ขนาด จำนวน เป็นต้น



ฉลาดด้านอารมณ์
ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเข้าห้องน้ำ การแต่งตัว รู้จักเลือกเสื้อผ้าใส่เองแล้ว และชอบใส่ชุดใหม่ๆ

จากการที่ลูกชอบเอาตัวเองไปเปรียบกับเพื่อนอาจทำให้ลูกเริ่มพูดถึงตัวเองในทางลบได้ ทางที่เราจะช่วยลูกได้คือเตือนให้ลูกรู้สึกภูมิใจในตัวเอง ในสิ่งที่ลูกสามารถทำได้ดีบ่อยๆ รวมทั้งสนับสนุนให้ลูกกิจกรรมที่ลูกต้องการพัฒนาและชื่นชมความสำเร็จของลูก



แม้ว่าลูกจะเข้าสู่รั้วโรงเรียนแล้ว แต่ก็ใช่ว่าพ่อแม่จะวางมือจากการดูแลลูกได้ เพราะ “ครู” เป็นเพียงผู้ช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งพ่อแม่ยังต้องคงบทบาทการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการที่คอยกระตุ้นและทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ลูกได้เรียนรู้จากโรงเรียนอยู่นะคะ    

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 8 เดือน

ลูกวัยนี้เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร และไม่ชอบให้ใครเข้าไปแทรกแซงสิ่งที่เขาคิด...เมื่อเราเข้าใจก็จะสามารถปรับท่าทีต่อกันได้ดีขึ้น มาดูกันว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกค่ะ

ฉลาดเรียนรู้
ทักษะการเรียนรู้ของลูกจะค่อยๆ พัฒนาขึ้น ผ่านการกระตุ้นจากการได้เห็นได้สัมผัสสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ เช่น ที่โรงเรียน ซึ่งมีเพื่อนใหม่ มีครู มีของเล่น และมีระเบียบแบบแผนที่ต่างไปจากบ้าน ซึ่งการเรียนรู้นี้จะช่วยให้ลูกปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้มากขึ้น

พ่อแม่ต้องคอยพูดคุยทบทวนถึงสิ่งที่ลูกได้พบเจอในแต่ละวัน เช่น หนูได้ทำอะไรบ้าง ชอบหรือไม่ชอบ กระตุ้นด้วยคำถามจากนั้น ฟังสิ่งที่ลูกเล่าอย่างใส่ใจ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าลูกมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้นหรือเราต้องช่วยเหลือเรื่องใดบ้าง

แม้ว่าลูกจะใช้สายตาได้ดีขึ้นแต่ก็ยังแยกไม่ออกว่าข้างไหนซ้ายหรือขวา ซึ่งคุณแม่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้ให้ลูกได้ โดยอาจร้องเป็นเพลงทำท่าประกอบ เช่น ฝนตกจั๊กๆ มือซ้ายหิ้วปลา มือขวาถือผัก พอถึงที่พักวางผักวางปลา เป็นต้น

                                                                                 

ฉลาดเคลื่อนไหว
ลูกเดินได้ดี ทั้งเดินหน้า ถอยหลัง หรือเดินไปข้างๆ บางคนสามารถเดินทรงตัวบนไม้กระดานแผ่นเดียวได้

ลูกสามารถวาดรูปคนโดยมีส่วนของร่างกาย 2-4 ส่วน ได้ เช่น วงกลมเป็นส่วนหัว เส้นตรงลงมาเป็นลำตัว เส้นเฉียงเป็นแขนและขา เป็นต้น



ฉลาดสื่อสาร
ลูกเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ มากมาย และเข้าใจความหมายของคำต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเข้าใจคำว่า “เหมือน” และ “แตกต่าง” แล้ว

สามารถใช้ประโยคยาวๆ ได้ และใช้ได้ถูกไวยากรณ์

หากที่ผ่านมาคุณแม่เล่านิทานให้ลูกฟัง ลูกวัยนี้สามารถเล่านิทานกลับให้คุณแม่ฟังได้บ้างแล้ว

ฉลาดด้านอารมณ์
แม้ว่าลูกวัยนี้จะต่อต้านอำนาจของแม่ แต่ก็แสดงความรักต่อพ่อแม่อย่างเปิดเผย ทั้งกอดทั้งหอม

เรียนรู้ท่าทางที่แตกต่างระหว่างผู้หญิงผู้ชายจากคุณพ่อคุณแม่ และพยายามจะวางท่าให้ได้ตามนั้น

เด็กวัยนี้มักมีปัญหาความกลัว เช่น กลัวความมืด กลัวยักษ์ กลัวสัตว์ประหลาด

ลูกเริ่มนอนฝันร้ายมากขึ้น และยังไม่สามารถแยกแยะได้ระหว่างความฝันกับความจริง หากพบว่าลูกตื่นกลางดึกเพราะฝันร้าย ให้คุณแม่ค่อยๆ ปลอบและอยู่ใกล้ๆ จนลูกหลับจะช่วยให้ลูกรู้สึกอุ่นใจได้มากขึ้น

เด็กทุกคนต้องการความเป็นอิสระที่จะคิดและทดลองทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง ยิ่งผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้เขาได้ลองทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองมากเท่าไร ลูกก็จะเกิดความมั่นใจและกล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา หรือเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างไม่ขลาดกลัว อันจะนำสู่พัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 7 เดือน

ลูกอายุเกิน 3 ขวบครึ่งแล้ว  มาดูกันว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกเป็นไปอย่างไรบ้าง

ฉลาดเรียนรู้
มีความคิดที่ซับซ้อนขึ้น จินตนาการมากขึ้น  บางครั้งจึงสับสนระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องราวนิทานที่ได้ฟัง

วัยนี้มักสนใจร่างกายตัวเองและตั้งคำถามกับตัวเองได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะคำถามที่เกี่ยวกับส่วนต่างๆ และการทำงานของร่างกาย

หลังจากที่รับรู้ว่าตัวเองเป็นเพศอะไรมาตั้งแต่ช่วงขวบปีก่อน ตอนนี้ลูกเริ่มสนใจใคร่รู้มากขึ้นในเรื่องนี้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมคำตอบที่จะช่วยให้ลูกเข้าใจเรื่องนี้ได้ง่ายและเหมาะสมกับวัยด้วย



ฉลาดเคลื่อนไหว
น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นของลูกในช่วงวัย 3-4 ปีนี้ เป็นผลจากการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ  

ร่างกายที่เติบโตแข็งแรง ส่งผลให้ลูกสามารถควบคุมกล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหวได้ดีและทรงตัวได้ดี เด็กๆ มักจะวิ่งกระโดดและไม่ค่อยอยู่นิ่ง จึงพร้อมที่จะทำกิจกรรมเกี่ยวกับการออกกำลังกายได้มากขึ้น สังเกตได้จากการที่ลูกสามารถเล่นเครื่องเล่นสนามได้ดีขึ้น

เดินทรงตัวบนพื้นเอียงๆ ได้ โยนลูกบอลได้สูงและเตะได้ไกลกว่าเดิม

การใช้มือหยิบจับสิ่งของและการช่วยเหลือตัวเองดีขึ้นตามลำดับเช่นกัน ที่สำคัญเมื่อเข้าโรงเรียน โอกาสที่ลูกจะได้ใช้นิ้วมือจับดินสอมีมากขึ้น กล้ามเนื้อได้ใช้งานบ่อยขึ้นย่อมแข็งแรงขึ้น การลากเส้นตามแบบก็ทำได้ดีขึ้น



ฉลาดสื่อสาร
วัยนี้โอกาสที่ลูกจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ เปิดกว้างมากขึ้น เพราะโลกของลูกได้ขยายจากบ้านไปสู่โรงเรียน สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ครูและเพื่อนวัยเดียวกันจะช่วยให้ทักษะด้านการสื่อสารของลูกดีขึ้น

คุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุนให้ลูกได้พูดมากขึ้น เช่น กระตุ้นด้วยคำถาม ว่าวันนี้เรียนอะไร ครูชื่ออะไรบ้าง  มีเพื่อนกี่คน ชื่ออะไรบ้าง ทำอะไรที่โรงเรียนบ้าง คำถามเหล่านี้จะช่วยให้ลูกได้ทบทวนและผูกโยงความคิดก่อนที่จะเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดตอบเรา



ฉลาดด้านอารมณ์
โดยธรรมชาติของเด็กวัยนี้ชอบและอยากมีเพื่อน การเข้าสู่รั้วโรงเรียนจึงเป็นจุดเริ่มต้นการฝึกฝนการเข้ากลุ่ม

เด็กที่ไม่ได้รับการปูพื้นฐานทางสังคมหรือการเล่นเป็นกลุ่มมาก็อาจมีปัญหาได้ การถูกกลุ่มปฏิเสธบ่อยๆ อาจทำให้มีพฤติกรรมถดถอยกลายเป็นเด็กขี้อาย เก็บตัวได้เช่นกัน

คุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยกระตุ้นให้ลูกเข้ากลุ่มบ่อยๆ เปิดโอกาสให้ลูกเล่นกับเด็กอื่นบ่อยๆ แต่ต้องไม่ใช่การทำให้ลูกตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น เพราะนั่นจะทำให้ลูกยิ่งอายมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรลดความคาดหวังในตัวลูกลงมาสักนิด เพราะบางครั้งความอายหรือการขาดความเชื่อมั่นในตัวเองของลูกก็มาจากการจัดการของพ่อแม่ ที่สำคัญพยายามสนับสนุนให้ลูกทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองเมื่อลูกทำสำเร็จต้องเอ่ยชมจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ลูกได้  

โอกาสที่ลูกวัยนี้จะมีพัฒนาการถดถอยเกิดขึ้นได้  เพราะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างบ้านกับโรงเรียน  หากเราเข้าใจจุดนี้ เราก็จะสนับสนุน ปลอบโยน และให้กำลังใจลูกได้ถูกเมื่อยามที่ลูกมีอาการท้อแท้ สับสน ไม่มั่นใจ  แต่ถ้าเราไม่เข้าใจไปดุว่าลูกก็เท่ากับเรายิ่งซ้ำเติมลูกให้ถดถอยกลับไปเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต ดังนั้น กำลังใจ และการทำตามคำมั่นสัญญาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องมีให้กับลูกวัยนี้ค่ะ    

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 6 เดือน

การเล่นสำหรับเด็กวัยนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เขาได้ผ่อนคลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือเล่นเป็นกลุ่ม  คุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้เล่นมากๆ เพราะการเล่นช่วยพัฒนาสมองลูกสู่อัจฉริยะรอบด้านได้  มาดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกกันค่ะ

ฉลาดเรียนรู้
ลูกวัยนี้จะสร้างความรู้ความเข้าใจพื้นฐานต่อสิ่งต่างๆ ผ่านการใช้ภาษา โดยเรียงคำให้เป็นประโยค แล้วผูกโยงประโยคด้วยการเชื่อมความคิดต่างๆ เข้าด้วยกัน และสามารถทำความเข้าใจกับความคิดใหม่ๆ หรือเรื่องราวที่ซับซ้อนได้มากขึ้น

ความสามารถในการเชื่อมโยงความคิดต่างๆ นี้ยังช่วยให้ลูกคิดในเชิงสัญลักษณ์ได้ด้วย เช่น ตุ๊กตาแทนคน แล้วนำมาเล่นบทบาทสมมติเลียนแบบจากประสบการณ์ รวมทั้งรู้ถึงความสำคัญของสัญลักษณ์และสิ่งที่เป็นนามธรรมมากขึ้น เช่น รู้ว่า ตัวเลข ใช้แทนจำนวนนับ หรือการวัดปริมาณได้ ตัวหนังสือใช้แทนคำพูดได้ เป็นต้น

การเปิดโอกาสให้ลูกได้ฝึกตั้งคำถามและคิดอย่างเป็นระบบบ่อยๆ จะช่วยให้สมองได้ฝึกการเชื่อมโยงวงจรแห่งความรู้และทำให้สามารถคิดได้อย่างรอบด้านมากขึ้น



ฉลาดเคลื่อนไหว
ทักษะการเคลื่อนไหวของลูกดีขึ้นตามลำดับเพราะลูกได้มีโอกาสฝึกฝนทุกวันไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง กระโดด หรือแม้กระทั่งการถีบจักรยานสามล้อ ซึ่งลูกทำได้ดี คล่องแคล่วขึ้นจากเดือนก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด

การทำงานประสานกันระหว่างตากับมือดีขึ้นตามลำดับ สังเกตได้จากลูกสามารถโยนรับลูกบอลได้แม่นยำมากขึ้น ลากเส้นได้ตรงขึ้น ต่อบล็อกได้หลายชั้นมากขึ้น หยิบจับสิ่งของชิ้นเล็กๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการได้มีโอกาสฝึกฝนบ่อยๆ



ฉลาดสื่อสาร
ลูกเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ได้มากขึ้น ออกเสียงได้ชัดขึ้น ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมีการใช้ภาษาได้ถูกต้อง

ชอบถามคำถามต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งรอบตัว เด็กผู้ชายที่พูดช้าเมื่อเข้าสู่วัยนี้ส่วนใหญ่จะพูดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่อาจมีบ้างที่บางคนกลับมาพูดติดอ่างในช่วงสั้นๆ แล้วก็หายไปเอง

ความสามารถทางภาษาที่เพิ่มขึ้นบวกกับการมีจินตนาการมากขึ้น ทำให้ลูกแต่งเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างเป็นตุเป็นตะทีเดียว



ฉลาดด้านอารมณ์
รับรู้และยอมรับอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้มากขึ้น

พยายามแสดงออกซึ่งท่าทีที่เป็นมิตรเมื่ออยากเข้ากลุ่ม

อยากเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม

สนใจเด็กเล็กกว่า บางครั้งก็รบเร้าคุณแม่ว่าอยากมีน้อง

ชอบเล่นสมมติเป็นสัตว์ต่างๆ และทำเสียงประกอบ เช่น โฮ่งๆ ก้าบๆ กุ๊กๆ

คุณพ่อคุณแม่ควรจัดเวลาไว้สำหรับทำกิจกรรมที่หลากหลายกับลูก เพื่อคอยกระตุ้นพัฒนาการและทักษะในด้านต่างๆ  เพื่อพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 5 เดือน

การที่ลูกวัยนี้เริ่มเชื่อฟังเราเป็นเพราะว่าเขาเริ่มรับรู้แล้วว่า คนอื่นๆ ก็มีความรู้สึกเหมือนกัน เขาจึงไม่สามารถทำอะไรๆ ตามใจตัวเองได้เหมือนช่วงวัยที่ผ่านมา ทั้งกับพ่อ แม่ ผู้ใหญ่ในบ้าน และรวมถึงเพื่อนที่โรงเรียนด้วย ดังนั้นลุกจึงเชื่อฟัง ไม่ดื้อ และยอมรับในอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นมากขึ้น นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกให้รู้ว่า ลูกกำลังเรียนรู้ที่จะสร้างความสัมพันธ์เชิงมิตรภาพแล้ว มาดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกกันค่ะ

ฉลาดเรียนรู้
ลูกวัยนี้สามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องมิติได้บ้างแล้ว คุณพ่อคุณแม่จึงควรเปิดโอกาสให้ลูกได้มองสิ่งต่างๆ จากหลายมิติ เช่น อาจจะมองจากมุมสูงลงมา มุมเงยขึ้นฟ้า มองผ่านแว่นขยาย เป็นต้น

สามารถพัฒนาความเข้าใจเรื่องมิติได้จากการรวมของเข้าด้วยกัน และแยกของออกจากกัน เช่น การแยกส่วนหุ่นยนต์ของเล่นแล้วนำมาประกอบกัน การประกอบและแยกส่วนตัวต่อต่างๆ  การเล่นภาพ ต่อจิกซอว์ก็ช่วยพัฒนาความเข้าใจเรื่องนี้ได้ดี



ฉลาดเคลื่อนไหว
ลูกเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว จนสามารถเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ในสนามได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นชิงช้า ม้าโยก กระดานลื่น ห้อยโหน ปีนตาข่าย ซึ่งการให้ลูกได้ใช้ทักษะบ่อยๆ จะช่วยให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ของลูกแข็งแรงมากขึ้น

การสร้างสรรค์งานศิลปะ ไม่ว่าจะด้วยการระบายสี ปั้นแป้ง ตัด-แปะกระดาษ ล้วนช่วยให้การทำงานระหว่างสายตากับมือดีพัฒนามากขึ้น และลูกวัยนี้ก็ชอบ อย่ามองข้ามที่จะให้ลูกได้ทำงานเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ



ฉลาดสื่อสาร
ลูกยังคงสนใจฟังเวลาที่ผู้ใหญ่พูดคุยกันเพื่อจดจำคำศัพท์และบทสนทนาต่างๆ เพื่อนำคำต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มาร้อยเรียงเชื่อมโยงเป็นประโยคใหม่ๆ

การชอบเล่นบทบาทสมมติซึ่งช่วยให้ลูกฝึกใช้คำพูด ประโยคต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มาอย่างไม่เคอะเขิน คุณแม่จะสังเกตได้ว่าลูกพูดมากขึ้นเวลาเล่น

ลูกพยายามหาทุกโอกาสพูดมากขึ้น ไม่เพียงแต่จะพูดกับพ่อแม่ผู้ใหญ่ในบ้านหรือพูดขณะเล่นเท่านั้น บางครั้งลูกก็ยังพูดกับสัตว์เลี้ยงในบ้านอีกด้วย

ลูกยังคงมีคำถามอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆ รอบตัว



ฉลาดด้านอารมณ์
ลูกวัยนี้จะตระหนักถึงการมีมารยาทที่ดีมากขึ้น เพราะเขาต้องการให้ผู้ใหญ่พึงพอใจในตัวเขา และตัวเขาเองก็มีความสุขที่ได้รับคำชมจากพฤติกรรมนี้

ชอบแสดงออกและต้องการการยอมรับและเป็นส่วนหนึ่งจากคนรอบข้าง

สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้ดี รู้ว่าสิ่งไหนเป็นประโยชน์กับตัวเอง

อย่าลืมนะคะ ว่าลูกกำลังจะก้าวสู่โลกที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ และเขาควรจะได้เรียนรู้ที่จะทำหลายสิ่งอย่างด้วยตัวเอง รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ด้วย คุณแม่ควรคอยดูแลอยู่วงนอกค่ะ   

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 4 เดือน

การพูดของลูกวัยนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ลูกจะใช้เพื่อถ่ายทอดความคิดของเขา ดังนั้นยิ่งลูกมีโอกาสได้พูด ได้ฟัง มากเท่าไร โอกาสที่เขาจะได้พัฒนาความคิดและเชื่อมโยงสู่การเรียนรู้ก็เกิดขึ้นได้มากเท่านั้น  ไปดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกกันค่ะ



ฉลาดเรียนรู้
โดยปกติเด็กวัย 3 ขวบขึ้นไปจะสามารถบอกชื่อสัตว์ในหนังสือที่ดูด้วยกันได้อย่างน้อย 2-3  รูป และสามารถนั่งฟังนิทานได้ประมาณ 5 นาที  รวมทั้งสามารถตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านด้วยกันได้

สามารถบอกสีได้อย่างน้อย 3  สี นับจำนวนได้ 1-3 แต่จะสามารถท่องจำได้มากกว่า เช่นถ้าคุณแม่สอนนับ 1-10  ก็ท่องได้ ถ้าสอนท่อง one two three เขาก็จะท่องได้ เช่นเดียวกับการท่องพยัญชนะต่างๆ  



ฉลาดเคลื่อนไหว
ลูกเคลื่อนไหวได้กระฉับกระเฉงมากขึ้น

วิ่งได้ดี หยุดหรือเลี้ยวได้ฉับพลัน

สามารถควบคุมนิ้วมือได้ดี ชอบแกะชิ้นส่วนเล็กๆ  จับแคะแกะสิ่งต่างๆ ลากเส้นตามแบบได้

ชอบตัดกระดาษ คุณแม่อาจหาซื้อกรรไกรพลาสติกสำหรับเด็กมาให้ลูกได้หัดตัดกระดาษเล่น เพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อนิ้วมือ



ฉลาดสื่อสาร
ยังสนใจและชอบฟังเวลาที่ผู้ใหญ่พูดคุยกันเพื่อจดจำการใช้ถ้อยคำต่างๆ และบางครั้งก็เผลอพูดแทรกขึ้นมากลางวงสนทนาก็มี

เข้าใจภาษาของผู้ใหญ่มากขึ้น และยอมรับคำพูดที่มีเหตุผลมากขึ้น และบางครั้งก็ยอมทำตามเหตุผลที่พ่อแม่อธิบายได้เช่นกัน

สามารถพูดคุยสื่อสารให้ผู้ใหญ่ทั่วไปฟังเข้าใจได้ ไม่ใช่พูดแล้วมีเพียงคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ฟังรู้เรื่อง

ชอบฟังนิทานและนั่งฟังได้นาน โดยเฉพาะนิทานที่มีภาพขนาดใหญ่ สีสันสดใส ตัวหนังสือไม่มาก มีเนื้อเรื่องใกล้ตัว หรือเกี่ยวกับสัตว์ที่ลูกชื่นชอบยิ่งดีค่ะ



ฉลาดด้านอารมณ์
ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากและดีขึ้น

ชอบเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่มมากกว่าเล่นกับของเล่น แต่ก็มีเด็กบางคนเหมือนกันที่ชอบเล่นกับของเล่น ซึ่งหากคุณแม่สังเกตว่าเขาไม่ได้มีปัญหาในการเล่นกับคนอื่น ก็ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด เพราะเป็นบุคลิกความชอบของเด็ก แต่ถ้าดูแล้วลูกมีปัญหาการปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น อาจต้องดูว่าต้นเหตุของปัญหาคืออะไร

เด็กวัยนี้มีจินตนาการและคิดเพ้อฝันได้มากขึ้น ความกลัวจึงผุดขึ้นมาอีกครั้งได้จากจินตนาการเหล่านั้น

คุณแม่อย่าลืมนะคะว่า สื่อที่ดีที่สุดสำหรับลูกวัยนี้คือหนังสือ  เพราะไม่เพียงการกวาดสายตามองภาพสีสันสดใส หูได้ฟังเสียงแม่เล่า ได้ปล่อยอารมณ์ไปกับเรื่องราวต่างๆ ในนิทาน อยู่ใกล้ๆ พ่อแม่ สมองยังได้เรียนรู้ จดจำ แต่งแต้มจินตนาการไปตามความคิดฝัน  หนังสือจึงช่วยให้คุณแม่ใช้พัฒนาลูกน้อยได้อย่างรอบด้าน 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 3 เดือน

ลูกวัยนี้ช่างเจรจาและรู้จักตั้งคำถามต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบ การตอบคำถามลูกจึงนับเป็นหน้าที่สำคัญที่คุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ในบ้านต้องช่วยกัน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการที่ดีของลูก ไปดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกกันค่ะ

ฉลาดเรียนรู้
ความสามารถในการจดจำและการเรียนรู้ก้าวหน้ามากขึ้น สังเกตได้จากการที่ลูกสามารถร้องเพลงที่ชอบหรือได้ฟังบ่อยๆ ได้ เช่น เพลง A B C หรือถ้าคุณแม่สอนร้องเพลงก.ไก่ ลูกก็จะสามารถท่องได้

สามารถจดจำนิทานที่อ่านเป็นประจำได้ และบางครั้งก็พยายามเล่าเรื่องในนิทานให้คนอื่นฟัง

ชอบเล่นจินตนาการไปกับบทบาทสมมติต่างๆ

ลูกมีความเข้าใจในเรื่องของเวลามากขึ้น เช่น รู้ว่าเมื่อวานนี้คือวันที่ผ่านมาแล้ว วันนี้ คือตอนนี้ และพรุ่งนี้คือวันถัดไป ซึ่งคำพูดของลูกที่ช่วยสะท้อนความเข้าใจในเรื่องนี้ เช่น นานแล้ว หลายปีแล้ว ตอนนั้น ตอนนี้ เป็นต้น อย่างไรก็ตามบางครั้งลูกอาจยังสับสนกับการใช้คำบ้าง แต่เขาจะค่อยๆ เรียนรู้ได้ดีขึ้นในเวลาต่อมา



ฉลาดเคลื่อนไหว
ยืนขาเดียวและกระโดดขาเดียวได้ดี รวมทั้งกระโดดได้สูงและไกลประมาณ 2-3 ก้าว

ก้มตัวลงใช้มือแตะเท้าได้โดยไม่ต้องงอเข่า

วิ่งได้คล่องแคล่วและสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้

เตะลูกบอลไปข้างหน้าได้

ใช้กรรไกรตัดกระดาษได้ดีขึ้น

จับตามองสิ่งของที่เคลื่อนไหวได้โดยไม่เสียสมาธิ



ฉลาดสื่อสาร
โดยปกติแล้วเด็กวัยช่วง 3-4 ปี เรียกว่าอยู่ในระยะขยาย จากที่ลูกหัดเรียกสิ่งต่างๆ เป็นคำๆ โดยเรียกชื่อคำนาม เรียกชื่อคนที่อยู่รอบข้าง สิ่งของต่างๆ ที่อยู่รอบตัว รวมทั้งคำคุณศัพท์ต่างๆ ที่ได้ยินผู้ใหญ่พูดกัน

ตอนนี้ลูกใช้คำพูดได้ถูกไวยากรณ์มากขึ้น เช่น มีประธาน กริยา กรรม

การช่างซักถามของลูกวัยนี้เป็นไปเพื่อฝึกฝนความสามารถในการใช้ภาษาให้ดีขึ้น ซึ่งผู้ใหญ่ไม่ควรละเลยคำถามต่างๆ ที่แม้จะรู้ว่าลูกรู้คำตอบแล้วก็ตาม แต่ให้พยายามตอบคำถามทุกคำถามด้วยภาษาง่ายๆ



ฉลาดด้านอารมณ์
เด็กบางคนจะไม่ค่อยร้องตามแม่หรือเกาะติดเวลาแม่ออกไปนอกบ้านแล้ว

สามารถช่วยเหลืองานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น ช่วยหยิบของให้แม่ ได้อย่างไม่อิดออด

ชอบแสดงออกและสนใจท่าทางการแสดงออกของผู้ใหญ่

สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น

อยากเข้ากลุ่ม เล่นกับเพื่อน โดยเฉพาะการเล่นที่ต้องใช้จินตนาการ

คุณแม่สามารถต่อยอดความรู้ให้ลูกวัยตั้งคำถามได้ด้วยการ “ถามกลับ” เพื่อฝึกให้ลูกได้คิดหาคำตอบด้วยตัวเอง ถ้าเขาไม่รู้ว่าจะหาคำตอบได้จากที่ไหนก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะคอยแนะนำและพาลูกไปค้นหาคำตอบ...แม้ว่าบางครั้งจะไม่ได้คำตอบ แต่อย่างน้อยลูกก็ได้เรียนรู้กระบวนการแล้วล่ะค่ะ

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 2 เดือน

ลูกกำลังก้าวสู่โลกกว้างแห่งการเรียนรู้ที่มีคุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุนและส่งเสริมให้เขาเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแน่นอนว่า การเตรียมพร้อมทักษะด้านต่างๆ ให้เหมาะสมกับวัยจะช่วยให้ลูกก้าวสู่โลกกว้างได้อย่างมั่นใจ  ไปดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกกันค่ะ

ฉลาดเรียนรู้
ลูกเริ่มรับรู้ส่วนต่างๆ ของร่างกายมากขึ้นว่าระหว่างแขนยังมีข้อศอก และระหว่างขามีหัวเขา หัวไหล่ทำให้หมุนแขนได้ เป็นต้น

จดจำบางส่วนของนิทานที่แม่อ่านให้ฟังเป็นประจำได้ แม้จะยังอ่านหนังสือไม่ออก

อธิบายรูปร่างต่างๆ ในหนังสือได้

สามารถท่องจำเลข 1-10 ได้ แต่ยังนับจำนวนได้เพียง 1-3



ฉลาดเคลื่อนไหว
ท่วงท่าการเดินดีขึ้นและถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าลูกพยายามจัดวางท่วงท่าการเดินให้เหมือนผู้ใหญ่

ยืนขาเดียวได้นานขึ้น และกระโดดได้สูงขึ้น

ขึ้นลงบันไดได้เองโดยไม่ต้องช่วย เพียงแต่เวลาเดินลงอาจยังสลับเท้าไม่ได้

วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ดี

ขี่จักรยานสามล้อได้คล่อง

โยน-รับลูกบอลได้แม่นยำขึ้น

จับดินสอได้ดี และเลือกใช้มือข้างที่ถนัดวาดรูป



ฉลาดสื่อสาร
พัฒนาการด้านภาษาก้าวหน้าเร็วมาก โดยลูกจะพยายามเรียกชื่อสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

โดยส่วนใหญ่เด็กวัยนี้จะพูดได้ทั้งประโยคสั้นๆ (3 คำ) และประโยคยาวๆ (5-6 คำ)

ชอบใช้คำถามว่าอะไร อย่างไร ทำไม เมื่อไร

ลูกวัยนี้เข้าใจภาษาพูดของผู้ใหญ่ แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมาย คำสั่ง หรือคำขอร้องจากผู้ใหญ่มากนัก



ฉลาดด้านอารมณ์
เด็กวัยนี้อยากเป็นมิตรกับทุกๆ คน อยากเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม และเริ่มใส่ใจการเล่นกับเด็กวัยเดียวกัน

รับรู้อารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นมากขึ้น

เวลาโกรธหรือไม่พอใจจะอาละวาดน้อยลงหรือสงบสติอารมณ์ได้ดีขึ้น

ยอมรับเหตุผลของผู้ใหญ่ได้บ้าง

ในวัยที่ลูกกำลังเริ่มต้นสร้างมิตรภาพกับคนรอบข้างเช่นนี้  คุณแม่ควรสนับสนุนให้ลูกได้ออกไปพบปะผู้คน รวมทั้งเด็กวัยเดียวกันบ่อยๆ  เพื่อพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกค่ะ 

พัฒนาการลูกน้อย วัย 3 ปี 1 เดือน

ยินดีกับคุณแม่ด้วยนะคะที่กำลังได้ลูกที่น่ารักแสนดี และเชื่อฟังมากขึ้นกว่าช่วงวัยที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่มหัศจรรย์เลยทีเดียวล่ะ...ไปดูกันค่ะว่าลูกวัยนี้มีพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านอย่างไรบ้าง

 ฉลาดเรียนรู้
เด็กวัยนี้มีความสนใจสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว เช่น คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ ของเล่น และชอบฟังคำพูดซ้ำๆ สั้นๆ คำคล้องจองต่างๆ  โดยเฉพาะนิทานที่มีภาพประกอบขนาดใหญ่ สีสันสดใส ตัวหนังสือไม่มาก ซึ่งเด็กวัยนี้จะสนใจจดจ่อได้ราว 5-10 นาที

เด็กวัยนี้ลูกช่างจดจำ เขาจะจำได้ว่าของสิ่งไหนควรอยู่ตรงไหน และจัดกลุ่มความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ได้ดี เช่น รู้ว่าไม้กวาดควรจะอยู่หลังบ้าน สบู่ควรอยู่ในห้องน้ำ เสื้อผ้าที่ใส่แล้วอยู่ในตะกร้า เป็นต้น



ฉลาดเคลื่อนไหว
เด็กวัยนี้ก้าวเดินได้อย่างมั่นคง เดินตรง และแกว่งแขนได้อย่างอิสระ สามารถยืนกระต่ายขาเดียว และเขย่งปลายเท้าได้ และเดินถอยหลังได้ดีขึ้น

ปรับเปลี่ยนอิริยาบถได้อย่างฉับพลัน เช่น จากท่านั่งยองๆ เป็นยืนและวิ่ง

ควบคุมการทำงานของมือและนิ้วได้ดีขึ้น สามารถลากเส้นต่างๆ ตามแบบได้ เช่น วงกลม กากบาท รวมทั้งโยนรับลูกบอลได้ดีขึ้น



ฉลาดสื่อสาร
ลูกวัยนี้ช่างพูด และเรียกชื่อสิ่งของที่คุ้นเคยได้คล่อง

สนใจหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ และนิทานต่างๆ

สามารถใช้คำแทนตัวเองหรือคนอื่นได้ถูก

พูดเป็นประโยคโดยมีคำอย่างน้อย 3 คำขึ้นไป และเริ่มมีกฎเกณฑ์ทางไวยากรณ์มากขึ้น

วัยนี้เหมาะอย่างยิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยพัฒนาภาษาของลูกให้ก้าวหน้า เพราะลูกเริ่มรู้จักผสมการพูดเข้ากับการเล่นของตัวเอง รู้จักคิดค้นคำพูดและสร้างท่วงทำนองการพูดในแบบฉบับตัวเอง  



ฉลาดด้านอารมณ์
ลูกวัยนี้เป็นเด็กดีผิดหูผิดตา บอกอะไรก็เชื่อฟัง โดยเฉพาะกับ “แม่” ลูกชื่นชมแม่มาก พร้อมจะเห็นด้วยกับแม่ทุกอย่าง จึงเป็นโอกาสดีที่คุณแม่จะช่วยบอกสอน หรือเติมเต็มระเบียบวินัยเพื่อลูกจะได้รู้จักหน้าที่และช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น

ลูกจะไม่มีปัญหากับการต้องอยู่โรงเรียน หากที่ผ่านมาคุณพ่อคุณแม่ได้เตรียมพร้อมลูกก่อนเข้าสู่โรงเรียนอนุบาลมาอย่างดี แต่ส่วนใหญ่ที่เราเห็นเด็กร้องไห้กระจองอแงในช่วงสัปดาห์แรกของการเข้าเรียนก็เพราะเราไม่ได้เตรียมความพร้อมหรือสร้างความเชื่อมั่นในตัวเราให้แก่ลูก ความไม่พร้อมนี้อาจทำให้พัฒนาการของลูกถดถอยได้ระยะหนึ่ง กระทั่งลูกค่อยๆ คุ้นชินและเริ่มปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ได้ในเวลาต่อมา

จากช่วงปีก่อนที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์เล่นของคนอื่น ๆ และค่อยๆ เขยิบความสัมพันธ์ แบบลองผิดลองถูกกับการเล่นเป็นกลุ่ม มาช่วงปีนี้ ลูกจะเริ่มเข้ากลุ่มมากขึ้น และอยากมีเพื่อนเล่นมากขึ้น การไปโรงเรียนจะทำให้ลูกเข้ากลุ่มได้

ลูกน้อยรู้ภาษาขึ้นมากแถมยังว่าง่ายอีกด้วย  อย่าลืมฉกฉวยโอกาสนี้ปลูกฝังระเบียบวินัยและเตรียมพร้อมลูกน้อยสู่วัยแห่งการเรียนรู้โลกกว้าง เพื่ออัจฉริยะรอบด้านของลูกค่ะ