หูเป็นอวัยวะที่มีลักษณะเป็นช่องเปิดจากภายนอกเข้าไป ทำให้เกิดอาการผิดปกติในส่วนต่างๆ ของหูได้ง่ายที่พบบ่อยคือ หูน้ำหนวก ซึ่งจากการติดเชื้อแบคทีเรียในหูชั้นกลาง เชื้อโรคเล็ดลอดจากบริเวณลำคอ ซึ่งมีการเป็นหวัดอยู่ ผ่านท่อ (ยูสเตเชี่ยน) เข้าสู่หูชั้นกลางทางท่อนี้ เมื่อเกิดหนองขึ้นหนองจะดันแก้วหูให้ทะลุและเป็นน้ำหนวกออกมาโดยเฉพาะการสั่งน้ำมูกแรงๆ ก็สามารถทำให้เชื้อเข้าสู่หูชั้นกลาง ไม่ได้มีสาเหตุจากน้ำเข้าหูแต่เกิดจากการเป็นหวัด
สำหรับเด็กเล็กคงไม่สามารถบอกให้คุณแม่รู้ได้ว่าเขาปวดหูอยู่ แต่อาจส่งสัญญาณบอกให้คุณแม่รู้ได้ด้วยการร้องไห้โยเย ไม่ยอมดูดนม และตัวร้อน คุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอาการผิดปกติจากการเป็นไข้หวัด เช่น ลูกชอบจับ ดึง ตรงบริเวณรูหู หรือบริเวณช่องหูของลูกมีกลิ่นหรือไม่ หากมีกลิ่นแสดงว่าอักเสบ และควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที หากเขามีน้ำในหูชั้นกลางเป็นเวลานานอาจทำให้เด็กมีปัญหาเรื่องการได้ยินหรือหูอื้อได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อรับการรักษาจนการอักเสบทุเลาลง แก้วหูที่ทะลุจะสามารถปิดเองได้
การดูแลรักษา
เบื้องต้นควรรักษาตามอาการของไข้หวัด เช่น ดูดน้ำมูก เสมหะ โดยใช้ลูกยางแดง หรือใช้น้ำเกลือหยอดจมูกให้น้ำมูกละลาย แล้วค่อยดูดน้ำมูกออก
หากลูกมีอาการมาก เช่น มีน้ำมูกเขียว อาจให้ยาปฏิชีวนะ หรือยาหยอดจมูกเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ให้ยาละลายเสมหะตามอาการ แต่ถ้าไม่ได้มีน้ำมูกมากจริงๆ ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้เสมหะเหนียว
ส่วนอาการหูน้ำหนวก จำเป็นต้องดูดเอาหนองออกมา และให้ยาหยอดหรือกินยาแก้อักเสบ กรณีที่หมอรักษาจนหนองแห้งแล้วควรพยายามไม่ให้น้ำเข้าหูลูก เพราะแก้วหูยังทะลุอยู่ ถ้าน้ำไม่สะอาดเข้าหูชั้นกลาง ก็อาจทำให้เกิดการอักเสบขึ้นได้อีก
การประคบด้วยน้ำอุ่นที่หูอาจช่วยลดอาการปวดได้ และอาจให้ลูกดูดน้ำอุ่นหรือนมบ่อยขึ้น เพื่อช่วยให้ท่อยูสเตเชี่ยนเปิด และลดอาการปวดหูได้ สำหรับเด็กโตอาจให้เคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อช่วยลดอาการปวดหูอีกทางหนึ่ง
สำหรับการป้องกันโรคหวัดลงหูที่ดีที่สุด คือการป้องกันไม่ให้ลูกเป็นหวัดนั่นเองค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น